ศาลปกครองสูงสุดตัดสินกฎโยกย้ายแต่งตั้งตำรวจสมัย “โกวิท” ขัด รธน.

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาการออกกฎ ก.ตร. สมัยพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2549 ข้อ 11 วรรค 2 เป็นการออกกฎโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยให้การโยกย้ายตำแหน่งมีผลตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป

วันนี้ (11 ก.ค.) พล.ต.ท.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้บัญชาการการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ารับฟังคำตัดสินศาลปกครองสูงสุด ที่ศาลปกครองขอนแก่น หลังจากเมื่อปี 2549 ขณะที่ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้เข้ายื่นเรื่องต่อศาลปกครองขอนแก่นว่า คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ในสมัย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ยังดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการแต่งตั้งตำแหน่งตำรวจชั้นสัญญาบัตรโดยไม่เป็นธรรม

โดยเฉพาะบางกลุ่มไม่มีการนับอายุรับราชการแล้วทำการโยกย้ายตำแหน่ง ทั้งที่ตามกฎจะต้องมีการนับอายุราชการตั้งแต่รับตำแหน่งรองสารวัตรจนถึงตำแหน่งปัจจุบัน

โดยเฉพาะลักษณะที่ 2 บทที่ 1 หลักเกณฑ์แต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ข้อ 11 ระบุการคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ให้ผู้มีอำนาจพิจารณาจากผู้ที่มีคุณสมบัติทั่วไปครบถ้วน และมียศกับระยะเวลาดำรงตำแหน่งกำกับไว้ด้วย โดยรองผู้บัญชาการตำรวจเลื่อนเป็นผู้บัญชาการ ต้องเป็นรองผู้บัญชาการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี และนับรวมระยะเวลาดำรงตำแหน่งตั้งแต่รองสารวัตรไม่น้อยกว่า 28 ปี นอกจากนี้ยังพบว่าคณะกรรมการ ก.ตร.ไม่มีการโปรดเกล้าฯ เข้ารับตำแหน่ง

ภายหลังศาลปกครองสูงสุดได้ขึ้นบัลลังก์อ่านคำพิพากษา โดยใช้เวลาอ่านคำตัดสิน 30 นาที ตัดสินให้การออกกฎดังกล่าวของ ก.ตร.ในปี 2549 เป็นการออกกฎโดยมิชอบขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในมาตรา 3 เป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม เป็นการออกกฎที่มิชอบด้วยกฎหมาย และพิพากษาให้ถอนกฎดังกล่าวไป

นอกจากนี้ คำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดจะทำให้การโยกย้ายตำแหน่งมีผลตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป จะยกเลิกการใช้อายุราชการรวมมาใช้อีกไม่ได้ต่อไป

พล.ต.ท.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้บัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจกับคำพิพากษาของศาลปกครองขอนแก่น เพราะเป็นการสร้างความยุติธรรมให้ข้าราชการตำรวจ ซึ่งคำพิพากษาจะเป็นประโยชน์ต่อตำแหน่ง สบ. หรือตำแหน่งในสายงานสนับสนุน ที่ไม่ต้องนับอายุข้าราชการแต่งตั้งเป็นรองสารวัตรจนถึงตำแหน่งปัจจุบันในการเลื่อนตำแหน่ง โดยใช้หลักเกณฑ์ตำรวจสายงานหลัก

ส่วนตำรวจที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งปี 2549 สามารถขอเยียวยาย้อนหลังได้