กาฬสินธุ์ - ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กส.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. และตำรวจทางหลวง ล้อมจับแก๊งค้าไม้พะยูง หลังสืบทราบเตรียมนำไม้พะยูงมาแปรรูปบนเทือกเขาภูพานส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการปิดล้อมก่อนนำกำลังจู่โจมจับ ได้ของกลางไม้พะยูงถึง 22 ท่อน แต่คนร้ายหลบหนีไปได้
วันนี้ (10 ก.ค.) พ.ต.ต.ภูมรินทร์ ขามชู สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ มะลัย หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.5 (บัวขาว) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กส.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. และตำรวจทางหลวง กว่า 30 นาย เข้าปิดล้อมทางขึ้นเขาภูพานบริเวณบ้านวังมน ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ หลังสืบทราบว่าแก๊งค้าไม้พะยูงได้เข้าลักลอบตัดไม้และเตรียมที่จะทำการเคลื่อนย้ายไม้พะยูงที่ผ่านการแปรรูปไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
เจ้าหน้าที่จึงได้จู่โจมเข้าจับกุม ซึ่งพบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กจ 6564 ร้อยเอ็ด จอดอยู่ตรงเชิงเขาภูพาน ภายในถอดเบาะคนนั่งออกจนหมด และบรรจุไม้พะยูงขนาดยาว 1 เมตร ถึง 22 ท่อน แต่คนร้ายที่คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 5 คนได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ทำการตรวจสอบทะเบียนตัวถังรถคันดังกล่าว กลับพบว่าทะเบียนที่ติดรถเป็นทะเบียนปลอม โดยทะเบียนที่แท้จริงคือ ชฌ 6085 กทม. ของนายอุเทน จงวิมานสินธุ์ ชาวจังหวัดนนทบุรี ซึ่งตำรวจจะได้เชิญตัวมาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นรถที่ถูกขโมยมา
ทั้งนี้ ตำรวจระบุว่าไม้พะยูงจำนวนนี้หากนำออกนอกประเทศได้จะมีมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โดยปัญหาไม้พะยูงยังพบการลักลอบตัดทุกวัน จนทำให้ไม้พะยูงกำลังจะหมดไปจากป่าภูพานแล้ว