กาญจนบุรี - ผบก.กาญจน์ ชี้กระทรวง ไอซีที ควรหาแนวทางบล็อกเกมรุนแรง ลดความเสี่ยงให้เด็กและเยาวชน แนะก่อนเล่นต้องใส่พาสเวิร์ด เลขบัตร ปชช.13 หลัก หากพบเป็นของผู้ปกครองให้ดำเนินคดี 2 เท่า
วันนี้ (7 ก.ค.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี มีผู้ประกอบการร้านเกมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก สังเกตจากหากขับรถไปตามถนนตามซอกซอยก็จะพบร้านเกมเปิดให้บริการเต็มไปหมด ซึ่งผู้ที่ไปใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นเด็กและเยาวชน เจ้าหน้าที่ตำรวจเองไม่มีอำนาจเพียงพอที่จะเข้าไปจับกุม ทำได้เพียงแค่เข้าไปห้ามปรามเม่านั้น ที่ผ่านมา พบว่าเด็กและเยาวชนจะนิยมเล่นเกมที่มีความรุนแรง เช่น เกมชกต่อย หรือเกมที่ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับคนร้าย ที่ผ่านมาจะมีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่า เด็ก หรือเยาวชนที่ไปก่อเหตุร้ายโดยไม่มีเหตุผล เพราะต้องการเลียนแบบเกมที่ตัวเองเล่น
ดังนั้น ส่วนตัวแล้วมองว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงไอซีที จะต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่น กำหนดให้ผู้ประกอบการร้านเกมนั้นๆ จะต้องมีระบบใส่ข้อมูลของเด็กและเยาวชนที่เข้าไปใช้บริการด้วยการป้อนพาสเวิร์ดตัวเลข 13 หลักของเลขประจำตัวตามบัตรประชาชน และหากพบว่าผู้ที่เข้าไปใช้บริการมีอายุไม่ถึง 25 ปี กระทรวงไอซีทีจะต้องมีระบบบล็อกเกมที่มีความรุนแรงโดยอัตโนมัติ และถ้าหากผู้ที่เข้าไปใช้บริการที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปก็สามารถอนุญาตให้เล่นได้โดยอัตโนมัติเช่นกัน
แต่ถ้าหากพบว่าเด็กและเยาวชนใช้เลข 13 หลักของผู้ปกครอง หรือใครก็ตามที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ไปป้อนใส่รหัสพาสเวิร์ดแทนของตนเอง เจ้าของเลข 13 หลักจะต้องถูกดำเนินคดีมากกว่าเด็กถึง 2 เท่า
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ปกครองจะต้องเอาใจใส่บุตรหลานให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ต้องยอมรับว่าปัจจุบันผู้ปกครองไม่ค่อยมีเวลาให้บุตรหลานเท่าที่ควร เนื่องจากต้องไปทำงานหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีบุตรเพียงคนเดียว ซึ่งจะทำให้เด็กไม่มีเพื่อนเล่น แล้วเกิดความเหงา และจะใช้เวลาว่างหันไปเล่นเกม โดยเฉพาะเกมที่มีความรุนแรง ดังนั้น ผู้ปกครองจะต้องมีเวลาให้แก่เด็กเหล่านี้มากขึ้น ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการหาวิธีป้องกันให้ได้
วันนี้ (7 ก.ค.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี มีผู้ประกอบการร้านเกมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก สังเกตจากหากขับรถไปตามถนนตามซอกซอยก็จะพบร้านเกมเปิดให้บริการเต็มไปหมด ซึ่งผู้ที่ไปใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นเด็กและเยาวชน เจ้าหน้าที่ตำรวจเองไม่มีอำนาจเพียงพอที่จะเข้าไปจับกุม ทำได้เพียงแค่เข้าไปห้ามปรามเม่านั้น ที่ผ่านมา พบว่าเด็กและเยาวชนจะนิยมเล่นเกมที่มีความรุนแรง เช่น เกมชกต่อย หรือเกมที่ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับคนร้าย ที่ผ่านมาจะมีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่า เด็ก หรือเยาวชนที่ไปก่อเหตุร้ายโดยไม่มีเหตุผล เพราะต้องการเลียนแบบเกมที่ตัวเองเล่น
ดังนั้น ส่วนตัวแล้วมองว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงไอซีที จะต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่น กำหนดให้ผู้ประกอบการร้านเกมนั้นๆ จะต้องมีระบบใส่ข้อมูลของเด็กและเยาวชนที่เข้าไปใช้บริการด้วยการป้อนพาสเวิร์ดตัวเลข 13 หลักของเลขประจำตัวตามบัตรประชาชน และหากพบว่าผู้ที่เข้าไปใช้บริการมีอายุไม่ถึง 25 ปี กระทรวงไอซีทีจะต้องมีระบบบล็อกเกมที่มีความรุนแรงโดยอัตโนมัติ และถ้าหากผู้ที่เข้าไปใช้บริการที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปก็สามารถอนุญาตให้เล่นได้โดยอัตโนมัติเช่นกัน
แต่ถ้าหากพบว่าเด็กและเยาวชนใช้เลข 13 หลักของผู้ปกครอง หรือใครก็ตามที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ไปป้อนใส่รหัสพาสเวิร์ดแทนของตนเอง เจ้าของเลข 13 หลักจะต้องถูกดำเนินคดีมากกว่าเด็กถึง 2 เท่า
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ปกครองจะต้องเอาใจใส่บุตรหลานให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ต้องยอมรับว่าปัจจุบันผู้ปกครองไม่ค่อยมีเวลาให้บุตรหลานเท่าที่ควร เนื่องจากต้องไปทำงานหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีบุตรเพียงคนเดียว ซึ่งจะทำให้เด็กไม่มีเพื่อนเล่น แล้วเกิดความเหงา และจะใช้เวลาว่างหันไปเล่นเกม โดยเฉพาะเกมที่มีความรุนแรง ดังนั้น ผู้ปกครองจะต้องมีเวลาให้แก่เด็กเหล่านี้มากขึ้น ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการหาวิธีป้องกันให้ได้