สระบุรี - เหยื่อปั๊มแก๊ส LPG ของบริษัทสามชายก๊าซ (ดาวเรือง) ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธินขาออกตัวเมืองสระบุรี ที่เกิดเพลิงลุกไหม้หลังรถบรรทุกกระเบื้องเซรามิกพุ่งชนอาการยังสาหัส
วันนี้ (6 ก.ค.) กรณีปั๊มแก๊ส LPG ของบริษัทสามชายก๊าซ (ดาวเรือง) ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธินขาออกตัวเมืองสระบุรี ได้เกิดเพลิงลุกไหม้บริเวณหัวจ่ายแก๊สจากสาเหตุที่มีรถบรรทุกกระเบื้องเซรามิก หมายเลขทะเบียน ตท 3250 กทม. ซึ่งเป็นของบริษัท สยามตาก จำกัด ซึ่งมีนาย กฤษฎา บัวล้ำเลิศ อายุ 33 ปี เป็นคนขับ และนายน้ำเงิน ปัทมะเสรี อายุ 41 ปี พนักงานนั่งมาในรถด้วย เสียหลักพุ่งเข้าชนบริเวณหัวจ่ายแก๊สภายในปั๊มจนเกิดเพลิงลุกไหม้ ทำให้บรรดารถจำนวน 6 คัน ซึ่งรอเติมแก๊สภายในปั๊มเกิดเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด นอกจากนั้น ภายในรถเก๋งฮอนด้าซีอาร์วี ทะเบียน ตห 3259 กทม. ซึ่งมีเภสัชกรหญิงนัทธพร โชคชัยเกษมสุข อายุ 34 ปี ประจำโรงพยาบาลแก่งคอย ขับมาขณะรอเติมแก๊ส ได้รับบาดเจ็บถูกไฟไหม้บริเวณแขนขา โดยคนเจ็บทั้งหมดนำส่งโรงพยาบาลสระบุรี
และในช่วงเช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รพ.สระบุรี เพื่อสอบถามอาการผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด โดยพบว่า นายน้ำเงิน ปัทมะเสรี ซึ่งนั่งมากับรถบรรทุกกระเบื้องรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU ตึกศัลยกรรม 2 ซึ่งแพทย์ระบุว่าเหลือเปอร์เซ็นต์ที่จะรอดเพียง 10% เพราะสภาพร่างกายถูกไฟไหม้เกือบหมด ถัดไปที่ห้อง ICU ตึกศัลยกรรม 1 พบนายกฤษฎา บัวล้ำเลิศ คนขับรถบรรทุกกระเบื้องที่ทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ปั๊มแก๊ส ถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า และลำตัว 85%
ส่วนเภสัชกรหญิงนัทธพร โชคชัยเกษมสุข แพทย์ระบุว่าถูกไฟไหม้เพียง 30% และจะให้ออกจากโรงพยาบาลได้ในวันนี้
ส่วนบรรยากาศภายในโรงพยาบาล ได้มีญาติของนายน้ำเงิน ปัทมเสรี ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยภรรยา ญาติหลายคน ต่างร่ำไห้ด้วยความเวทนา เพราะทราบอาการจากแพทย์ว่าเปอร์เซ็นต์ที่จะรอดนั้นเหลือน้อย
ส่วนภรรยาของนายกฤษฎา บัวล้ำเลิศ คนขับรถบรรทุกชื่อ นางภัทริยา แก้วใส่หุ่น อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ม.6 ต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งเดินทางมาเพียงลำพัง โดยนางภัทริยา ได้เปิดเผยว่า ทราบข่าวเหตุการณ์ของสามีเมื่อวานนี้ แต่ไม่สามารถเดินทางมาได้เนื่องจากตนเพิ่งคลอดบุตรได้เพียง 11 เดือน ซึ่งต้องดูแลอยู่
ส่วนเจ้าของบริษัท สยามตาก จำกัด ยังไม่มีการติดต่อมาถึงฝ่ายญาติของคนขับ และพนักงานทั้งสองแต่อย่างใด ซึ่งทางญาติของนายน้ำเงิน ปัทมเสรี ซึ่งมีอาการโคม่าที่สุดได้วิงวอนผ่านขอให้ทางบริษัทดูแลภรรยา และลูกของนายน้ำเงิน เนื่องจากลูกชายทั้งสองยังเล็กอยู่ ส่วนบริเวณปั๊มแก๊สที่เกิดเพลิงไหม้ไม่พบเจ้าของ หรือผู้จัดการ เพียงแต่มีเด็กปั๊มอยู่ภายในสถานที่นั้นเพียง 2 คน ซึ่งสอบถามแล้วแต่ไม่ได้รับการเปิดเผยเรื่องราวแต่อย่างใด
สำหรับปั๊มแก๊สที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ หากมีการลุกลามไปถึงบริเวณหัวจ่ายแก๊สอีกจุดหนึ่ง ซึ่งเชื่อมต่อจากถังใต้ดินอาจเกิดการระเบิดขึ้น และอาจทำให้ลุกลามไปถึงปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงข้างเคียง ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตรได้
วันนี้ (6 ก.ค.) กรณีปั๊มแก๊ส LPG ของบริษัทสามชายก๊าซ (ดาวเรือง) ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธินขาออกตัวเมืองสระบุรี ได้เกิดเพลิงลุกไหม้บริเวณหัวจ่ายแก๊สจากสาเหตุที่มีรถบรรทุกกระเบื้องเซรามิก หมายเลขทะเบียน ตท 3250 กทม. ซึ่งเป็นของบริษัท สยามตาก จำกัด ซึ่งมีนาย กฤษฎา บัวล้ำเลิศ อายุ 33 ปี เป็นคนขับ และนายน้ำเงิน ปัทมะเสรี อายุ 41 ปี พนักงานนั่งมาในรถด้วย เสียหลักพุ่งเข้าชนบริเวณหัวจ่ายแก๊สภายในปั๊มจนเกิดเพลิงลุกไหม้ ทำให้บรรดารถจำนวน 6 คัน ซึ่งรอเติมแก๊สภายในปั๊มเกิดเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด นอกจากนั้น ภายในรถเก๋งฮอนด้าซีอาร์วี ทะเบียน ตห 3259 กทม. ซึ่งมีเภสัชกรหญิงนัทธพร โชคชัยเกษมสุข อายุ 34 ปี ประจำโรงพยาบาลแก่งคอย ขับมาขณะรอเติมแก๊ส ได้รับบาดเจ็บถูกไฟไหม้บริเวณแขนขา โดยคนเจ็บทั้งหมดนำส่งโรงพยาบาลสระบุรี
และในช่วงเช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รพ.สระบุรี เพื่อสอบถามอาการผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด โดยพบว่า นายน้ำเงิน ปัทมะเสรี ซึ่งนั่งมากับรถบรรทุกกระเบื้องรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU ตึกศัลยกรรม 2 ซึ่งแพทย์ระบุว่าเหลือเปอร์เซ็นต์ที่จะรอดเพียง 10% เพราะสภาพร่างกายถูกไฟไหม้เกือบหมด ถัดไปที่ห้อง ICU ตึกศัลยกรรม 1 พบนายกฤษฎา บัวล้ำเลิศ คนขับรถบรรทุกกระเบื้องที่ทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ปั๊มแก๊ส ถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า และลำตัว 85%
ส่วนเภสัชกรหญิงนัทธพร โชคชัยเกษมสุข แพทย์ระบุว่าถูกไฟไหม้เพียง 30% และจะให้ออกจากโรงพยาบาลได้ในวันนี้
ส่วนบรรยากาศภายในโรงพยาบาล ได้มีญาติของนายน้ำเงิน ปัทมเสรี ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยภรรยา ญาติหลายคน ต่างร่ำไห้ด้วยความเวทนา เพราะทราบอาการจากแพทย์ว่าเปอร์เซ็นต์ที่จะรอดนั้นเหลือน้อย
ส่วนภรรยาของนายกฤษฎา บัวล้ำเลิศ คนขับรถบรรทุกชื่อ นางภัทริยา แก้วใส่หุ่น อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ม.6 ต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งเดินทางมาเพียงลำพัง โดยนางภัทริยา ได้เปิดเผยว่า ทราบข่าวเหตุการณ์ของสามีเมื่อวานนี้ แต่ไม่สามารถเดินทางมาได้เนื่องจากตนเพิ่งคลอดบุตรได้เพียง 11 เดือน ซึ่งต้องดูแลอยู่
ส่วนเจ้าของบริษัท สยามตาก จำกัด ยังไม่มีการติดต่อมาถึงฝ่ายญาติของคนขับ และพนักงานทั้งสองแต่อย่างใด ซึ่งทางญาติของนายน้ำเงิน ปัทมเสรี ซึ่งมีอาการโคม่าที่สุดได้วิงวอนผ่านขอให้ทางบริษัทดูแลภรรยา และลูกของนายน้ำเงิน เนื่องจากลูกชายทั้งสองยังเล็กอยู่ ส่วนบริเวณปั๊มแก๊สที่เกิดเพลิงไหม้ไม่พบเจ้าของ หรือผู้จัดการ เพียงแต่มีเด็กปั๊มอยู่ภายในสถานที่นั้นเพียง 2 คน ซึ่งสอบถามแล้วแต่ไม่ได้รับการเปิดเผยเรื่องราวแต่อย่างใด
สำหรับปั๊มแก๊สที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ หากมีการลุกลามไปถึงบริเวณหัวจ่ายแก๊สอีกจุดหนึ่ง ซึ่งเชื่อมต่อจากถังใต้ดินอาจเกิดการระเบิดขึ้น และอาจทำให้ลุกลามไปถึงปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงข้างเคียง ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตรได้
