พะเยา - ชาวนาเมืองกว๊านพะเยาครวญ เจอภัยแล้งคุกคามหน้าฝน ผืนนาลุ่มน้ำอิงเสี่ยงกลายเป็นนาพัง หลังลำน้ำสาขาอย่างน้อย 4 สายแห้งขอดจนดินแตกระแหง หลายท้องที่ไม่มีน้ำทำนา
นายสมชาย เข็มเพชร นายกสมาคมเกษตรกรจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ขณะนี้แม่น้ำสาขาของน้ำอิงในพื้นที่ 4 ตำบล ของ อ.จุน จ.พะเยา แห้งขอดจนดินแตกระแหงแล้ว ทั้งที่กำลังย่างเข้าสู่หน้าฝน คือ แม่น้ำร่องไผ่ ร่องแฟน ร่องย้าง จนไม่มีน้ำเหลือให้เกษตรกรสูบเข้านาข้าวได้อีกต่อไป
ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำอิงก็เหลือน้อยเต็มที จนอาจทำให้นาปีของเกษตรกรในพื้นที่ ต.ลอ ต.หงส์หิน ต.ห้วยยางขาม และ ต.ทุ่งรวงทอง ที่มีพื้นที่อยู่ในทุ่งลอ และลุ่มน้ำอิง คาดว่าจะประสบปัญหาไม่น้อยกว่า 3,000 ไร่
“หากนับจากนี้ไปภายใน 2 สัปดาห์ ยังไม่มีฝนตกลงมา เกรงจะเกิดความเสียหายต่อข้าวนาปีกลายเป็นนาพังได้”
นายก ส.เกษตรกร จ.พะเยา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เกษตรกรสมาชิกสมาคมฯ ในพื้นที่ อ.ดอกคำใต้ ตำบลรอบนอก เช่น ดงสุวรรณ ต.สันโค้ง พื้นที่อยู่ในเขตเงาฝนก็ไม่มีน้ำทำนาได้เลย แม้แต่อำเภอเมืองบางพื้นที่อยู่ริมกว๊านพะเยา แต่ไม่มีน้ำ พื้นดินแห้งแตก ดินในนาข้าวยุ่ยเป็นผุย ลำน้ำสาขาทั่วไปไม่มีน้ำเหลือเลย
“กลุ่มผู้ใช้น้ำของแม่น้ำอิงในพื้นที่ 4 ตำบล ดังกล่าว ได้ร่วมประชุมหารือเพื่อขอเปิดระบายน้ำอิงที่เก็บกักในเขื่อนยาง ต.ลอ อ.จุน ให้ไหลสู่แม่น้ำอิงที่อยู่ระยะถัดไปเพื่อให้เกษตรกรชาวนาได้สูบน้ำเข้านาได้ รวมถึงปล่อยน้ำจากเขื่อนยางให้ไหลลงในแม่น้ำสาขาตามลำเหมืองไส้ไก่ ภายใน 2-3 วัน จะทดลองทำ เพราะช้าอาจจะเสียหาย คาดว่าน้ำที่ถูกเก็บกักในเขื่อนยางประมาณ 2 ล้าน ลบ.เมตร อาจจะช่วยประคองแก้ปัญหาภัยแล้งเร่งด่วนได้บ้าง” นายสมชายกล่าว
ด้านนายเตชะพัฒน์ มะโนวงศ์ เลขาธิการสภาประชาชนลุ่มน้ำอิง เปิดเผยว่า ลุ่มน้ำอิงตอนต้นในพื้นที่ อ.ภูกามยาว ซึ่งเป็นพื้นที่ทำนาของประชาชนในหมู่บ้านที่ตนอาศัยอยู่ ขณะนี้แทบไม่มีน้ำเหลือให้ได้ใช้ทำนา ทั้งต้นข้าว และต้นกล้าที่ปลูกไปแล้วก็ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง บางหมู่บ้านต้องระวังปัญหาการแย่งน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกขณะ
นายสมชาย เข็มเพชร นายกสมาคมเกษตรกรจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ขณะนี้แม่น้ำสาขาของน้ำอิงในพื้นที่ 4 ตำบล ของ อ.จุน จ.พะเยา แห้งขอดจนดินแตกระแหงแล้ว ทั้งที่กำลังย่างเข้าสู่หน้าฝน คือ แม่น้ำร่องไผ่ ร่องแฟน ร่องย้าง จนไม่มีน้ำเหลือให้เกษตรกรสูบเข้านาข้าวได้อีกต่อไป
ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำอิงก็เหลือน้อยเต็มที จนอาจทำให้นาปีของเกษตรกรในพื้นที่ ต.ลอ ต.หงส์หิน ต.ห้วยยางขาม และ ต.ทุ่งรวงทอง ที่มีพื้นที่อยู่ในทุ่งลอ และลุ่มน้ำอิง คาดว่าจะประสบปัญหาไม่น้อยกว่า 3,000 ไร่
“หากนับจากนี้ไปภายใน 2 สัปดาห์ ยังไม่มีฝนตกลงมา เกรงจะเกิดความเสียหายต่อข้าวนาปีกลายเป็นนาพังได้”
นายก ส.เกษตรกร จ.พะเยา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เกษตรกรสมาชิกสมาคมฯ ในพื้นที่ อ.ดอกคำใต้ ตำบลรอบนอก เช่น ดงสุวรรณ ต.สันโค้ง พื้นที่อยู่ในเขตเงาฝนก็ไม่มีน้ำทำนาได้เลย แม้แต่อำเภอเมืองบางพื้นที่อยู่ริมกว๊านพะเยา แต่ไม่มีน้ำ พื้นดินแห้งแตก ดินในนาข้าวยุ่ยเป็นผุย ลำน้ำสาขาทั่วไปไม่มีน้ำเหลือเลย
“กลุ่มผู้ใช้น้ำของแม่น้ำอิงในพื้นที่ 4 ตำบล ดังกล่าว ได้ร่วมประชุมหารือเพื่อขอเปิดระบายน้ำอิงที่เก็บกักในเขื่อนยาง ต.ลอ อ.จุน ให้ไหลสู่แม่น้ำอิงที่อยู่ระยะถัดไปเพื่อให้เกษตรกรชาวนาได้สูบน้ำเข้านาได้ รวมถึงปล่อยน้ำจากเขื่อนยางให้ไหลลงในแม่น้ำสาขาตามลำเหมืองไส้ไก่ ภายใน 2-3 วัน จะทดลองทำ เพราะช้าอาจจะเสียหาย คาดว่าน้ำที่ถูกเก็บกักในเขื่อนยางประมาณ 2 ล้าน ลบ.เมตร อาจจะช่วยประคองแก้ปัญหาภัยแล้งเร่งด่วนได้บ้าง” นายสมชายกล่าว
ด้านนายเตชะพัฒน์ มะโนวงศ์ เลขาธิการสภาประชาชนลุ่มน้ำอิง เปิดเผยว่า ลุ่มน้ำอิงตอนต้นในพื้นที่ อ.ภูกามยาว ซึ่งเป็นพื้นที่ทำนาของประชาชนในหมู่บ้านที่ตนอาศัยอยู่ ขณะนี้แทบไม่มีน้ำเหลือให้ได้ใช้ทำนา ทั้งต้นข้าว และต้นกล้าที่ปลูกไปแล้วก็ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง บางหมู่บ้านต้องระวังปัญหาการแย่งน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกขณะ
