xs
xsm
sm
md
lg

จนท.เทศบาลเมืองกาญจน์ดำน้ำงมหากระป๋าสตางค์พบเรือโบราณไม้สักทองอายุกว่า 100 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - จนท.เทศบาลเมืองกาญจนบุรี ดำน้ำเก็บกระป๋าสตางค์ท่าน้ำวัดใต้ กลับพบเรือโบราณทำจากไม้สักทองอายุกว่า 100 ปี จมอยู่ใต้น้ำแทน เผยใช้รถเครน 3 ตันมายกไม่ขึ้น ต้องจุดธูปเทียนขอขมาวิญญาณจึงสำเร็จ

เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันนี้ (3 ก.ค.) นางเบญจวรรณ เปรมประยูร นายกเทศบาลเมืองกาญจนบุรี และนางสมพร สุวรรณที รองปลัดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากนายดำรง บ่อเงิน หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองกาญจนบุรี และนายแมน พรรณวรรณ์ พนักงานดับเพลิง นักประดาน้ำเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ว่า พบเรือไม้ตะเคียนอายุกว่า 100 ปี จมอยู่ใต้น้ำบริเวณท่าแพให้อาหารปลาด้านหลังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) ต.บ้านใต้ อ.เมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกราบนมัสการพระราชวิสุทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) นิมนต์ไปร่วมตรวจสอบ โดยหลังจากประชาชนทราบข่าวได้เดินทางไปมุงดูเป็นจำนวนมาก

พระราชวิสุทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) กล่าวว่า เป็นเรื่องที่แปลกมากที่อยู่ๆ ก็ค้นพบเรือโบราณลำดังกล่าวจมอยู่ใต้ท้องน้ำที่ลึกถึง 14 เมตร อาตมาเองเชื่อว่าไม่เคยมีใครรู้เรื่องนี้มาก่อน จะเป็นปาฏิหาริย์ หรือจะเป็นความบังเอิญก็แล้วแต่ อาตมาไม่ขอวิจารณ์ ขอให้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล แต่อย่างไรก็ตาม อาตมาได้ให้เจ้าหน้าที่มาทำฐานไม้เพื่อนำเรือโบราณลำดังกล่าวมาตั้งไว้บนฝั่งบริเวณทางลงท่าแพเลี้ยงปลาเพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชาตามความเชื่อ สำหรับเรือที่พบเป็นเรือที่ทำด้วยไม้สักทองที่มีอายุมากกว่า 100 ปี

นายแมน พรรณวรรณ์ 1 ในนักประดาน้ำเทศบาลเมืองกาญจนบุรี เล่าว่า เวลาประมาณ 08.00 น. ขณะที่ตนเดินทางไปที่ท่าแพให้อาหารปลาของวัดใต้ มีผู้หญิงอายุประมาณ 20 ปี บอกแก่ตนว่าขณะให้อาหารปลาอยู่ๆ กระเป๋าสตางค์ก็หลุดมือหล่นลงไปในแม่น้ำ โดยขอร้องให้ตนช่วยลงไปงมให้ โดยบอกว่าภายในมีเงินประมาณ 2,000 บาท และเอกสารทางราชการ ครั้งแรกตนคิดว่าจะไม่ช่วยงม แต่อยู่ๆ ก็มีแรงบันดาลใจให้ตนตัดสินใจช่วย

จากนั้นจึงนำชุดประดาน้ำมาสวมใส่แล้วก็ดำลงไปใต้ท้องน้ำลึกประมาณ 14 เมตร เมื่อถึงใต้พื้นน้ำตนถึงกับตกใจเมื่อพบเรือไม้โบราณขนาดใหญ่จมอยู่ใต้ท้องน้ำ แต่ไม่พบกระเป๋าสตางค์ของหญิงสาวคนดังกล่าวแต่อย่างใด และหลังจากที่ตนพบเรือลำดังกล่าว จึงได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อนำเรือของเทศบาลมากู้ซากเรือขึ้นมา โดยต้องดำน้ำลงไปแล้วใช้เชือกผูกจากนั้นใช้อุปกรณ์ชักลอกดึงขึ้นมาได้สำเร็จ

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ซากเรือได้สำเร็จ แต่ไม่สามารถนำเรือลำดังกล่าวขึ้นมาได้เนื่องจากสถานที่ไม่อำนวย เจ้าหน้าที่จึงใช้เรือชักลากไปขึ้นที่บริเวณท่าน้ำเชิงสะพานพระสังฆราช ติดกับวัดเหนือ จากนั้นนำรถเครนน้ำหนัก 3 ตันมายกขึ้นฝั่ง แต่รถเครนไม่สามารถยกขึ้นมาได้ ทั้งๆ ที่เรือลำดังกล่าวมีสภาพผุพังแล้ว มีเพียงเครื่องยนต์ของเรือเท่านั้นที่มีน้ำหนักมาก แต่คาดว่าน้ำหนักไม่น่าจะถึง 100 กิโลกรัม โดยเจ้าหน้าที่พยายามใช้รถเครนยกขึ้นหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ อีกทั้งยังทำให้รถเครนยังลอยตัวอีกด้วย ซึ่งสร้างความแปลกใจให้แก่เจ้าหน้าที่รวมทั้งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก โดยแต่ละคนต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ หรือเป็นเพราะความอาถรรพ์ หรือเป็นเพราะเจ้าของเรือลำดังกล่าวที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อสมัยโบราณอาจทำปาฏิหาริย์ไม่ให้สามารถนำเรือขึ้นมาบนฝั่งได้

ด้วยความเชื่อเจ้าหน้าที่โดย นายแมน พรรณวรรณ์ ผู้ที่พบเรือเป็นคนแรก จึงตัดสินใจนำธูปเทียนมาจุดเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และวิญญาณของเจ้าของเรือที่สิงสถิตอยู่ พร้อมภาวนาขอให้สามารถนำเรือขึ้นมาบนฝั่งได้ เพื่อนำไปเก็บรักษาไว้ที่ท่าน้ำวัดใต้ และทุกคนไม่มีเจตนาที่จะลบหลู่แต่อย่างใด หลังทำพิธีแล้วเสร็จเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถเครนลองดึงเรือขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และในที่สุดก็สามารถนำเรือลำดังกล่าวขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย เมื่อทุกคนเห็นดังนั้นต่างมีความเชื่อมากยิ่งขึ้นว่า เป็นเพราะมีวิญญาณของเจ้าของเรือสิงสถิตอยู่จริง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบนำเรือลำดังกล่าวมาไว้ที่วัดไชชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) เพื่อให้ประชาชนกราบไหว้บูชาตามความเชื่อ ซึ่งการกู้ซากเรือโบราณลำดังกล่าวใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

และพบว่าเรือทั้งลำสร้างด้วยไม้สักทองอายุมากกว่า 100 ปี มีทองเหลืองเป็นส่วนประกอบ ส่วนหางมีเครื่องยนต์คล้ายกับเครื่องยนต์แบบไอน้ำ แต่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน นอกจากนี้ เครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์สูบเดียว ไม่มีถังเติมน้ำมัน แต่กลับพบว่ามีถังน้ำมันเครื่อง ซึ่งภายในยังมีน้ำมันเครื่องหลงเหลืออยู่ มีโมเลขนาดใหญ่ และยังพบหมายเลขที่โมเลคือ 17 BS 000 ส่วนอักษรอื่นเลือนรางเห็นไม่ชัดซึ่งทุกคนเข้าใจว่าอักษรดังกล่าวอาจจะเป็นหมายเลขเครื่องก็เป็นได้





กำลังโหลดความคิดเห็น