ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจภาค 5 จับยาบ้า 4 แสนเม็ด พร้อมผู้ต้องหา หลังขนผ่านเส้นทางแม่สาย-เชียงแสน ส่งพ่อค้ายาชาวม้งที่เวียงแก่น ผบช. เผยเตรียมส่งตรวจสอบว่ามาจากไหน รุ่นใหม่หรือไม่ ระบุการข่าวแจ้งจ่อชายแดนรอหาทางเข้าอีกมหาศาล จับได้แค่ตัวเล็ก จะปราบให้อยู่หมัดต้องตามล่านายทุน หากไม่ได้ต้องลดผู้เสพในประเทศแทน
วันนี้ (2 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ. 5 และคณะ ร่วมแถลงการจับกุมยาบ้า 400,000 เม็ด พร้อมผู้ต้องหาใน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยตำรวจสามารถจับกุมตัว นายจุลจักร ฤทิชัยกุล อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 4 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และนายสมศักดิ์ แซ่ลี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 6 ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ของกลางยาบ้าเม็ดสีส้มปนสีเขียว ตรา WY บรรจุในซองพลาสติกแบบรูดปิดปากสีฟ้า ซองละประมาณ 200 เม็ด ห่อรวมกันเป็นมัด มัดละ 10 ซอง จำนวน 200 มัด บรรจุในกระเป๋าเป้สีเขียว 2 เป้ เป้ละ 100 มัด รวมบยาบ้า 400,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง รถกระบะนิสสันนาวาร่า สีดำ ทะเบียน บธ 2010 พะเยา ได้ที่ถนนแม่สาย-เชียงแสน กม.25-26 ก่อนถึงสามเหลี่ยมทองคำ หมู่ 4 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า จะมีการลักลอบนำยาบ้าจำนวนมากเข้ามาใน จ.เชียงราย โดยจะใช้รถกระบะ ทะเบียน บธ 2010 พะเยา จึงได้วางแผนทำการจับกุม ต่อมา วันที่ 1 กรกฎาคม พบรถวิ่งมาตามเส้นทางแม่สาย-เชียงแสน จึงได้สกัดจับ และทำการตรวจค้น พบผู้ต้องหาทั้ง 2 คน และยาเสพติด จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขนยาเสพติดไปส่งให้แก่ผู้ค้ายาชาวม้งที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ค่าจ้าง 300,000 บาท
พล.ต.ท.สุเทพ กล่าวว่า ยาเสติดที่จับกุมได้จะนำไปตรวจสอบต่อ โดยร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อดูว่ามาจากแหล่งผลิต หรือจากกลุ่มใด เป็นยาเสพติดชนิดใหม่หรือไม่ เพราะปัจจุบันจากข้อมูลที่ได้รับ พบว่า มียาเสพติดจำนวนมากในโรงงานฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ลดลงไป เนื่องจากขาดแคลนซูโดอีเฟรดีน ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญ อันเป็นผลมาจากการปราบปรามการลักลอบขนส่งซูโดอีเฟรดีนออกนอกประเทศ
อย่างไรก็ตาม พบว่าปัจจุบันกลุ่มผู้ผลิตยาเสพติดได้นำซูโดอีเฟรดีนจากแหล่งอื่น เช่น อินเดีย หรือเวียดนาม มาใช้ในการผลิตแทน ทำให้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา สามารถจับกุมยาผู้ต้องหาในคดียาเสพติดได้มากขึ้น แต่ยังคงเป็นผู้ต้องหารายเล็ก รับจ้างขนยาเสพติด ไม่นานก็จะมีคนที่หลงผิดเข้ามาทำหน้าที่แทน ดังนั้น หากต้องการจัดการให้ได้ผลจะต้องพยายามติดตามให้ถึงนายทนให้ได้ หรือหากยังไม่สามารถติดตามหาตัวกลุ่มนายทุนผู้ผลิตได้ ก็ต้องอาศัยการลดความต้องการยาเสพติดของกลุ่มผู้เสพ ซึ่งที่ผ่านมา ตำรวจมีการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง ทำให้จำนวนผู้เสพและปริมาณยาเสพติดที่อยู่ในพื้นที่ลดลง
