ศูนย์ข่าวศรีราชา - จับผัวเมียชาวเขมร หลอกเด็กชายชาวไทยวัย 11 ปี จากระยอง มาทำงานก่อสร้างที่เกาะล้าน
วันนี้ (27 มิ.ย.) พ.ต.ท.ออมสิน สุขการค้า รอง ผกก.ช่วยราชการศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชน และสตรี ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมกำลังเข้าจับกุม นายสาย อายุ 33 ปี กับนางวัน อายุ 35 ปี สัญชาติกัมพูชา ขณะนั่งอยู่ในแคมป์คนงานก่อสร้างอาคารพาณิชย์ บนแขวงเกาะล้าน หมู่ 7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง หลังได้รับแจ้งว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน หลอกเด็กชายชาวไทยมาทำงานก่อสร้าง และหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
จากการสอบสวนนางวัน ให้การว่า ลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยมาทำงานก่อสร้างได้กว่า 1 ปีเศษแล้ว โดยต้องเสียค่านายหน้าพามาคนละจำนวน 3,000 บาท ส่วนลูกๆ ทั้ง 3 คน จ่ายคนละ 700 บาท เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน ขณะทำงานอยู่ที่ จ.ระยอง ลูกชายได้พา ด.ช.แนท อายุ 11 ปี มาพบพร้อมกับบอกว่า พ่อแม่ตายหมดและขออยู่ด้วย ด้วยความสงสารจึงให้พักอาศัยอยู่ในแคมป์คนงานด้วย กระทั่งย้ายมาทำงานที่เกาะล้าน จึงพา ด.ช.แนท มาอยู่ด้วย ซึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้บังคับขู่เข็ญแต่อย่างใด
ขณะที่ ด.ช.แนท เล่าว่า ก่อนหน้านี้เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ปกติจะพักอาศัยอยู่กับยาย เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน โดยเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันลอยกระทง ได้ถูกนายเหมา อายุ 15 ปี ลูกชายของนายสาย กับนางวัน หลอกว่าจะพาไปเล่นดอกไม้ไฟที่บ้าน แต่เมื่อไปถึงแคมป์คนงานกลับไม่ได้เล่นจึงขอกลับบ้าน แต่ถูกนายสาย บังคับไม่ให้กลับ วันต่อมาจึงพาตัวมาทำงานก่อสร้างที่เกาะล้าน และบังคับให้ทำงานหนัก หากเด็กไม่ทำก็จะใช้ไม้ หรือไม่ก็เหล็กตีจนเด็กเกิดความกลัว พร้อมกับข่มขู่ว่าหากบอกใครจะฆ่าทิ้ง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวนายสาย กับนางวัน ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนลูกๆ ทั้ง 3 คน กับ ด.ช.แนท ได้ส่งตัวไปอยู่ในความคุ้มครองของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กชั่วคราว พร้อมกับเร่งติดต่อญาติของ ด.ช.แนท ให้มารับตัวต่อไป
วันนี้ (27 มิ.ย.) พ.ต.ท.ออมสิน สุขการค้า รอง ผกก.ช่วยราชการศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชน และสตรี ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมกำลังเข้าจับกุม นายสาย อายุ 33 ปี กับนางวัน อายุ 35 ปี สัญชาติกัมพูชา ขณะนั่งอยู่ในแคมป์คนงานก่อสร้างอาคารพาณิชย์ บนแขวงเกาะล้าน หมู่ 7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง หลังได้รับแจ้งว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน หลอกเด็กชายชาวไทยมาทำงานก่อสร้าง และหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
จากการสอบสวนนางวัน ให้การว่า ลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยมาทำงานก่อสร้างได้กว่า 1 ปีเศษแล้ว โดยต้องเสียค่านายหน้าพามาคนละจำนวน 3,000 บาท ส่วนลูกๆ ทั้ง 3 คน จ่ายคนละ 700 บาท เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน ขณะทำงานอยู่ที่ จ.ระยอง ลูกชายได้พา ด.ช.แนท อายุ 11 ปี มาพบพร้อมกับบอกว่า พ่อแม่ตายหมดและขออยู่ด้วย ด้วยความสงสารจึงให้พักอาศัยอยู่ในแคมป์คนงานด้วย กระทั่งย้ายมาทำงานที่เกาะล้าน จึงพา ด.ช.แนท มาอยู่ด้วย ซึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้บังคับขู่เข็ญแต่อย่างใด
ขณะที่ ด.ช.แนท เล่าว่า ก่อนหน้านี้เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ปกติจะพักอาศัยอยู่กับยาย เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน โดยเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันลอยกระทง ได้ถูกนายเหมา อายุ 15 ปี ลูกชายของนายสาย กับนางวัน หลอกว่าจะพาไปเล่นดอกไม้ไฟที่บ้าน แต่เมื่อไปถึงแคมป์คนงานกลับไม่ได้เล่นจึงขอกลับบ้าน แต่ถูกนายสาย บังคับไม่ให้กลับ วันต่อมาจึงพาตัวมาทำงานก่อสร้างที่เกาะล้าน และบังคับให้ทำงานหนัก หากเด็กไม่ทำก็จะใช้ไม้ หรือไม่ก็เหล็กตีจนเด็กเกิดความกลัว พร้อมกับข่มขู่ว่าหากบอกใครจะฆ่าทิ้ง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวนายสาย กับนางวัน ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนลูกๆ ทั้ง 3 คน กับ ด.ช.แนท ได้ส่งตัวไปอยู่ในความคุ้มครองของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กชั่วคราว พร้อมกับเร่งติดต่อญาติของ ด.ช.แนท ให้มารับตัวต่อไป