กาญจนบุรี - ตำรวจกาญจนบุรี รวบหัวโจกวัย 19 หัวหน้าแก๊งชุกโดน ซิ่งรถ จยย.ปาดหน้า สาดกระสุนเจาะไหปลาร้าคู่อริดับ “ผกก.” มือปราบพร้อมชุดสืบสวนใช้เวลา 1 วัน ตามตะครุบตัวได้ที่บ้านเช่า พบประวัติเคยก่อคดีอุกฉกรรจ์ฆ่าคนตายมาแล้วตอนอายุ 16 ปี คุมตัวแถลงข่าว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (24 มิ.ย.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.วันชัย อ่อนละออ รอง ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.เจษฎา ปิ่นชูทอง สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ต.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี นำตัวนายพงศ์วิท หรือวิท เทพกาวารี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 268 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มาแถลงข่าวที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนสั้นขนาด .38 ยิงนายสมคิด หรือน็อต กุศล อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 1 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เข้าที่บริเวณไหปลาร้าซ้ายกระสุนฝังในได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี แถลงว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 02.15 น.ของวันที่ 22 มิ.ย.56 ที่ผ่านมา ขณะที่ ร.ต.ท.ไตรภพ มงคลสุจริตกุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี กำลังเข้าเวร ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพหลฯ ว่า มีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บถูกนำมารักษาที่โรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
พบศพนายสมคิด หรือน็อต กุศล ถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่บริเวณไหปลาร้าซ้ายกระสุนฝังใน ส่วนจุดเกิดเหตุอยู่ที่บริเวณถนนแสงชูโต ก่อนถึงกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ประมาณ 300 เมตร มีร่องรอยการครูดถนนของรถจักรยานยนต์เป็นทางยาวประมาณ 20 เมตร ตรวจสอบโดยรอบไม่พบปลอกกระสุนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังกันออกค้นหากล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ตามเส้นทางดังกล่าว เพื่อนำภาพมาประกอบสำนวนคดี และติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ โดยนำตัวนายนัฐทวัฒน์ สง่างาม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/6 หมู่ 1 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อนของผู้ตาย ที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน ขธล 414 กาญจนบุรี ที่ผู้ตายเป็นคนขับ มาสอบสวนที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เป็นหัวหน้าชุด
ด้าน พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายนัฐทวัฒน์ เพื่อของผู้ตายที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน รวมทั้งเพื่อนของผู้ตายอีกกลุ่มหนึ่งที่มาพบเหตุก่อนจะนำผู้ตายส่งไปยังโรงพยาบาล ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งสองได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งจนกระทั่งร้านปิด จากนั้นจึงขับรถจักรยานยนต์ไปตามถนนเลียบริมน้ำหน้าเมือง เมื่อมาถึงบริเวณถนนถนนด้านหน้าศาลา 60 พรรษา พบกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ขวางถนนอยู่ด้านหน้า 3 คัน ผู้ตายจึงได้เร่งเครื่องแซงพร้อมตะโกนให้ของลับผู้ต้องหา สร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว และมีการขับแซงกันไปมา ไปจนถึงจุดเกิดเหตุ 1 ในกลุ่มวัยรุ่นได้ชักอาวุธปืนออกมายิงใส่นายสมคิด หรือน็อต คนขับ เข้าที่ไหปลาร้าซ้ายกระสุนฝังใน อาการสาหัส หลังก่อเหตุกลุ่มคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไป เพื่อนที่มาด้วยกันจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล คณะแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมหลักฐานเป็นที่แน่ชัดว่าผู้ก่อเหตุคือ นายพงศ์วิท หรือวิท เทพกาวารี เจ้าหน้าที่จึงทำรายงานไปที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขออนุมัติหมายจับ เลขที่ 444/58 ลงวันที่ 23 มิ.ย.56 จนกระทั่งสืบทราบว่า ผู้ต้องหาไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ บ้านหัวนาล่าง ซ.99 หมู่ 10 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงรีบนำกำลังพร้อมหมายจับไปยังบ้านหลังดังกล่าว และสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
จากการตรวจสอบรายชื่อบุคคลจากแฟ้มอาชญากรรม พบว่า ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุฆ่าคนตายขณะที่มีอายุเพียง 16 ปี รวมทั้งคดีอาวุธปืน และคดียาเสพติด นอกจากนี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหายังเคยถูกกลุ่มวัยรุ่นคู่อริแก๊งเตาปูนใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่สะโพกขวาได้รับบาดเจ็บ ส่วนเพื่อนเสียชีวิตคาที่ และขณะทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแต่ได้หลบหนีออกมา โดยเป็นผู้เสียหายอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ปัจจุบัน ผู้ต้องหาเป็นระดับหัวหน้าแก๊งวัยรุ่นกลุ่มชุกโดน
เบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ และขอให้การใช้ชั้นศาล และจากนี้เป็นต้นไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะกวดขันจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่พกพาอาวุธปืนอย่างต่อเนื่อง และหากสามารถจับกุมตัวได้จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ จะเรียกผู้ปกครองให้มาพบ หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับผู้ปกครองของวัยรุ่นคนนั้นๆ ด้วย
