เจ้าอาวาสวัดกลาง มอบทนายความดำเนินคดีมือดีโพสต์คลิปลงเน็ต

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าอาวาสวัดชื่อดังในเมืองชลบุรี มอบอำนาจทนายความเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อมือมืดที่โพสต์ภาพทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง คู่กรณีโต้มีการเรียกเงิน 35 ล้านบาทจริง พร้อมยืนยันหลักฐาน และจะต่อสู้คดีในชั้นศาล

วันนี้ (21 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีการโพสต์คลิปภาพการพูดคุยระหว่างผู้ซึ่งถูกระบุว่าเป็นพระครูโกวิทสุตธรรม เจ้าอาวาสวัดกลาง อ.เมือง จ.ชลบุรี กับ น.ส.อุไรวรรณ ศิริรักษ์ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านกิฟต์ชอป ที่เช่าพื้นที่ของวัดลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก พร้อมระบุข้อความว่ามีการเรียกเงิน 35 ล้านบาท และยังมีภาพเจ้าอาวาสขณะจับมือหญิงสาวคนดังกล่าวนั้น

ล่าสุด พระครูโกวิทสุตธรรม ได้มอบอำนาจให้ น.ส.กิตติมา สิริศุภชัย ทนายความ เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้โพสต์คลิปดังกล่าว ที่ สภ.เมือง ข้อหาความผิดทางคอมพิวเตอร์และหมิ่นประมาท เนื่องจากเห็นว่าคลิปดังกล่าวทำให้เสียชื่อเสียง

พระครูโกวิทสุตธรรม กล่าวว่า ภาพที่เผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตเป็นการใช้มุมกล้องที่บิดเบือน เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเจ้าอาวาสจับมือสีกา แต่ความเป็นจริงแล้วเป็นภาพของ น.ส.เกศริน ซึ่งเป็นเสมียนของวัด กำลังถวายยาแก้ปวด และยาลดความดันให้แก่เจ้าอาวาส ไม่มีการถูกเนื้อต้องตัวแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่พูดถึงเงิน 35 ล้านบาทในคลิปนั้น เกิดจากการถามนำของ น.ส.อุไรวรรณ ถึงการสร้างศาลาการเปรียญ โดยอาตมาพูดถึงมูลค่าจัดสร้าง 35 ล้านบาท ไม่ได้เป็นการรีดเงินแต่อย่างใด โดยยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกร้องเงินถึง 35 ล้านบาท จากเจ้าของร้านกิฟต์ชอป ซึ่งจะดำเนินคดีคู่กรณีในข้อหาความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรื่องการตัดต่อคลิป และความผิดฐานหมิ่นประมาท

ด้าน น.ส.อุไรวรรณ กล่าวว่า ได้มาเซ้งร้านนี้ได้ประมาณ 7-8 เดือน และได้ตกแต่งร้านโดยไม่ได้แจ้งต่อทางวัดก่อนทำให้เจ้าอาวาสเรียกไปต่อว่า และแจ้งว่าจะฟ้องร้อง ซึ่งตนได้พยายามเจรจาหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล ขณะที่เจ้าอาวาสยืนยันว่าจะให้เรื่องจบที่ชั้นศาล ทั้งที่ยังไม่ได้มีการฟ้องร้อง และทนายความของวัดได้บอกตนว่า หากต้องการให้เรื่องจบจะต้องนำทองคำหนัก 4-5 บาท ถวายแก่เจ้าอาวาส ซึ่งตนเชื่อว่าทนายความไม่กล้าพูดเอง หากไม่มีใครสั่งมา

ส่วนกรณีการรีดเงิน 35 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่าเจ้าอาวาสพูดจริง เพราะเห็นว่าสามีตนเป็นคนมีฐานะร่ำรวย โดยบอกว่าหากต้องการให้เรื่องจบจะต้องจ่ายเงิน 35 ล้านเพื่อนำไปสร้างศาลาการเปรียญ ซึ่งสามีของตนมีคลิปฉบับเต็มที่ไม่มีการตัดต่อ พร้อมจะนำไปต่อสู้ในชั้นศาลแน่นอน

“เชื่อว่าที่ทำแบบนี้เพราะต้องการเอาชนะดิฉัน เนื่องจากผู้เช่ารายอื่นยอมหมด แต่เราไม่ยอม และผู้ค้าที่ตลาดวัดกลางเกือบร้อยละ 90 ก็ไม่มีใครชื่นชอบเจ้าอาวาสรูปนี้”