แม่ฮ่องสอน - กรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เตรียมจับมือทำเมืองคู่แฝดแม่ฮ่องสอนกับภูฏานเพื่อการท่องเที่ยว
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสุนัย จุลพงศธร ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับนางนฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศ การเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม กับการสืบสานสัมพันธ์ 2 แผ่นดินระหว่างประเทศไทย กับราชอาณาจักรภูฏาน
นายสุนัยกล่าวว่า ในการเดินทางมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอนระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายน 2556 เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเกี่ยวกับแนวความคิดที่จะมีการผลักดันให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นเมืองคู่แฝดกับราชอาณาจักรภูฏาน เนื่องจากทั้งสองเมืองมีภูมิประเทศ อากาศ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีที่คล้ายคลึงกัน
แต่จากการหารือทราบว่าตามข้อตกลงเมืองคู่แฝดหรือที่เรียกว่าเมืองพี่เมืองน้องนั้นจะต้องเป็นเมืองกับเมืองลักษณะเท่าๆ กัน จึงเลือกที่จะเอาเมืองแม่ฮ่องสอนจับคู่แฝดกับเมืองทิมพู ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศภูฏาน ภายใต้การร่างข้อตกลงที่เน้นในเรื่องความสัมพันธ์ในราชวงศ์ ศาสนา ประเพณีวัฒนธรรม และภูมิประเทศ ผ่านทางกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศให้มีความเห็นชอบเพื่อนำไปสู่การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และเชิงอนุรักษ์ต่อไป
นายสุนัยต่อไปอีกว่า ในส่วนของประเทศภูฏานตนคิดว่าคงไม่มีปัญหาในการจับคู่แฝดกับเมืองแม่ฮ่องสอน เพราะทางภูฏานมีความสนใจในโครงการตามแนวพระราชดำริ โครงการพัฒนาบนพื้นที่สูง และโครงการตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งตรงนี้จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีศูนย์เรียนรู้มากมาย ขณะที่ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็ต้องการพัฒนาทางด้านการท่องเที่ยว ด้านภาษาอังกฤษ ด้านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางศาสนาและวัฒนธรรมกับประเทศภูฏานในอีกหลายด้านเช่นกัน
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสุนัย จุลพงศธร ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับนางนฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศ การเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม กับการสืบสานสัมพันธ์ 2 แผ่นดินระหว่างประเทศไทย กับราชอาณาจักรภูฏาน
นายสุนัยกล่าวว่า ในการเดินทางมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอนระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายน 2556 เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเกี่ยวกับแนวความคิดที่จะมีการผลักดันให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นเมืองคู่แฝดกับราชอาณาจักรภูฏาน เนื่องจากทั้งสองเมืองมีภูมิประเทศ อากาศ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีที่คล้ายคลึงกัน
แต่จากการหารือทราบว่าตามข้อตกลงเมืองคู่แฝดหรือที่เรียกว่าเมืองพี่เมืองน้องนั้นจะต้องเป็นเมืองกับเมืองลักษณะเท่าๆ กัน จึงเลือกที่จะเอาเมืองแม่ฮ่องสอนจับคู่แฝดกับเมืองทิมพู ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศภูฏาน ภายใต้การร่างข้อตกลงที่เน้นในเรื่องความสัมพันธ์ในราชวงศ์ ศาสนา ประเพณีวัฒนธรรม และภูมิประเทศ ผ่านทางกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศให้มีความเห็นชอบเพื่อนำไปสู่การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และเชิงอนุรักษ์ต่อไป
นายสุนัยต่อไปอีกว่า ในส่วนของประเทศภูฏานตนคิดว่าคงไม่มีปัญหาในการจับคู่แฝดกับเมืองแม่ฮ่องสอน เพราะทางภูฏานมีความสนใจในโครงการตามแนวพระราชดำริ โครงการพัฒนาบนพื้นที่สูง และโครงการตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งตรงนี้จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีศูนย์เรียนรู้มากมาย ขณะที่ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็ต้องการพัฒนาทางด้านการท่องเที่ยว ด้านภาษาอังกฤษ ด้านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางศาสนาและวัฒนธรรมกับประเทศภูฏานในอีกหลายด้านเช่นกัน
