กาญจนบุรี - ตำรวจกาญจนบุรีรวบตัวสาวอีสานแก๊งตกทองหัวใส นำสร้อยเงินชุบทองเร่จำนำร้านจำหน่ายทองรูปพรรณในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี เลือกเฉพาะร้านที่พนักงานด้อยประสบการณ์
วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.วันชัย อ่อนละออ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ต.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี ร่วมกันแถลงข่าวจับแก๊งทองปลอมเร่จำนำร้านจำหน่ายทองรูปพรรณในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ได้ผู้ต้องหา 1 คน คือ น.ส.วาสนา หรือวาส คณะวาท อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302 ม.2 ต.เกษตรวิสัย อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลางสร้อยเงินโดยข้อต่อทั้งสองเป็นทองคำ น้ำหนัก 29 กรัม จำนวน 1 เส้น ในข้อหาพยายามฉ้อโกงทรัพย์
พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี แถลงว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.56 เวลาประมาณ 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากร้านทองเฉลิมพร 1 อยู่บริเวณตลาดผาสุก เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ว่า มีบุคคลเป็นหญิงนำสร้อยคอทองคำคาดว่าจะเป็นทองปลอมน้ำหนัก 2 บาท มาจำนำกับร้าน ขณะนี้หญิงสาวที่นำมาจำนำยังอยู่ภายในร้าน
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงรีบไปตรวจสอบที่ร้านดังกล่าว พบนางสุธาทิพย์ เปาประดิษฐ์ เจ้าของร้านทอง และ น.ส.นิพากร ศรีจันทร์ พนักงานประจำร้าน โดยมีหญิงสาววัยกลางคนอยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไว้ แล้วให้ทางร้านทำการตรวจสอบสร้อยคอทองคำเส้นดังกล่าวมาตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยการใช้อุปกรณ์พ่นหัวแก๊สลนไปที่สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 29 กรัม จำนวน 1 เส้น ที่หญิงสาวคนดังกล่าวอ้างว่าน้ำหนัก 2 บาท ปรากฏว่า สร้อยเนื้อทองละลายกลายเป็นสร้อยเงิน คงเหลือไว้เฉพาะข้อทองทั้งสองข้างที่เป็นทองคำแท้ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวหญิงสาวคนดังกล่าวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วาสนา หรือวาส คณะวาท อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302 หมู่ 2 ต.เกษตรวิสัย อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด
นางสุธาทิพย์ เปาประดิษฐ์ เจ้าของร้านทองผู้เสียหายเปิดเผยว่า ปกติทองคำแท้น้ำหนัก 2 บาท จะต้องชั่งได้ประมาณ 30.4 กรัม หลังจากผู้ต้องหานำมาจำนำที่ร้าน ซึ่งปรากฏว่า พนักงานของร้านนำไปชั่งได้เพียง 29 กรัม จึงผิดสังเกตเพราะน้ำหนักทองนั้นหายไป พนักงานจึงแจ้งให้ตนทราบก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวเอาไว้
พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า จากการสอบสวน น.ส.วาสนา ยอมรับว่าสร้อยเส้นดังกล่าวเป็นทองปลอม ส่วนข้อทองทั้งสองข้างเป็นของแท้ โดยของกลางจะไปรับมาจากเพื่อนที่มีอาชีพตกทอง หากสามารถนำทองปลอมน้ำหนัก 1 บาท ไปจำนำได้สำเร็จจะได้ค่าตอบแทน 1 พันบาท
นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังรับสารภาพอีกว่า เคยนำสร้อยคอลักษณะเดียวกันไปตระเวนจำนำมาแล้วหลายครั้ง โดยทำมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นราคาทองคำอยู่ที่บาทละ 22,000 บาท โดยทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ครั้ง แต่ละครั้งจะไม่ซ้ำหน้ากัน และจะเลือกเฉพาะร้านทองที่รับพนักงานใหม่เข้ามาทำงานซึ่งยังไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการดูทอง โดยหลังจากผู้ต้องหารับสารภาพจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป และหากร้านทองร้านใดเจอเหตุการณ์ดังกล่าว และสงสัยว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกันให้เดินทางมาดูตัวได้ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้ตลอดเวลา