บุรีรัมย์ - กลุ่มหน้ากากขาวบุรีรัมย์กว่า 200 คน รวมตัวแสดงพลังเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล ล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้น จวกรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” บริหารราชการแผ่นดินแบบเผด็จการ ชี้ทุจริตหลายโครงการ ไม่สามารถชี้แจง ปชช.ได้ จี้รัฐบาลยุบสภาฯ หรือลาออก เผยไร้แก๊งแดงป่วน
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (16 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนหลากหลายสาขาอาชีพที่จังหวัดบุรีรัมย์ ได้พร้อมใจกันสวมใส่หน้ากากขาว เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณข้างคลองละลมโบราณใกล้สวนรมย์บุรี ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อแสดงพลังไม่เห็นด้วยกับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
พร้อมถือป้ายที่มีข้อความต่างๆ เช่น “ขณะนี้กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ข้าขอประกาศว่าข้าจะล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย” “บัดนี้ประชาชนคนบุรีรัมย์ได้ลุกขึ้นแล้ว เราจะไม่ยอมรับระบอบทักษิณอีกต่อไป” “หมดเวลาของรัฐบาล โกง โกง โกง กู้ กู้ กู้ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ตระกูลชินวัตร ออกไป ออกไป” เป็นต้น เพื่อให้ผู้คนที่ผ่านไปมาได้เห็น และทราบถึงเจตนารมณ์ที่ออกมาเคลื่อนไหว
ก่อนที่จะเดินขบวนถือป้ายไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อเชิญชวนกลุ่มประชาชนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน และไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศของรัฐบาลได้ร่วมออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านร่วมกัน
โดยระบุว่า รัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ บริหารประเทศแบบเผด็จการ พวกมากลากไป โดยเฉพาะเงินกู้ที่รัฐบาลกู้มาพัฒนาประเทศ 2.2 ล้านล้านบาท มาดำเนินโครงการต่างๆ ไม่โปร่งใส ไม่สามารถชี้แจงประชาชนได้ เชื่อว่าจะมีการทุจริตซึ่งจะนำไปสู่ความล้มเหลวในการบริหารประเทศ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลได้ยุบสภาฯ หรือลาออก ก่อนที่กลุ่มหน้ากากขาวจะรวมพลังครั้งใหญ่เพื่อขับไล่รัฐบาลต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การออกมารวมพลังเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาวครั้งนี้ไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน หรือมีการกระทบกระทั่งกันอย่างเช่นจังหวัดเชียงใหม่แต่อย่างใด
ด้านนายบุญคง นพรัตน์วงศกร หนึ่งในผู้ที่มีเจตนารมณ์เดียวกับกลุ่มหน้ากากขาว บอกว่า การออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการแสดงพลังของกลุ่มที่ต่อต้าน และคัดค้านการบริหารประเทศของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่บริหารแบบเผด็จการ และส่อทุจริตในโครงการต่างๆ หลายโครงการ ไม่สามารถที่จะชี้แจงประชาชนได้ จึงขอให้รัฐบาลได้ทบทวนตัวเองด้วยการยุบสภา หรือลาออก ซึ่งขณะนี้กลุ่มหน้ากากขาวที่บุรีรัมย์ปรากฏตัวในเฟซบุ๊กมากกว่า 2,000 คน และพร้อมที่จะเคลื่อนไหวร่วมกับจังหวัดต่างๆ หากมีความจำเป็นเพื่อบ้านเมือง
