ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เกิดเหตุระทึก! รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อติดตั้งก๊าซ NGV เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างขาดกระเด็น ตกร่องกลางถนนมิตรภาพช่วงบายพาสเมืองโคราช เกิดไฟลุกท่วมวอดทั้งคัน คนขับปีนหนีตายออกมาได้หวุดหวิดก่อนหลบหนีไป ตร.คาดคนขับหลับใน
วันนี้ (14 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) พ.ต.ท.พิษณุ กองทองนอก สารวัตรเวรสอบสวน สภ.นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างตกลงไปในร่องน้ำกลางถนนเกิดไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง และรถคันดังกล่าวติดตั้งก๊าซธรรมชาติชนิด NGV จำนวนหลายถัง เหตุเกิดบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 7 ถนนมิตรภาพ ช่วงบายพาส จอหอ-สามแยกปักธงชัย ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง จ.นครราชสีมา
หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลหนองกระทุ่ม รวมถึงชุดผจญเพลิงของหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิพุทธธรรมการกุศล จ.นครราชสีมา (ฮุก 31) นำรถดังเพลิงเข้าช่วยเหลือ
ในที่เกิดเหตุบริเวณร่องน้ำกลางถนน เจ้าหน้าที่พบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 70-1033 เลย หมายเลขทะเบียนตัวพ่วง 70-1034 เลย สภาพไฟกำลังโหมลุกไหม้บริเวณภายในห้องโดยสารอย่างรุนแรงก่อนลุกท่วมรถทั้งคัน สลับกับมีเสียงยางระเบิดเป็นระยะๆ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องฉีดน้ำควบคุมเพลิงอยู่ห่างๆ พร้อมกับปิดการจราจรถนนมิตรภาพทั้งสองฝั่งเนื่องจากรถบรรทุกคันดังกล่าวติดตั้งก๊าซธรรมชาติ ชนิด NGV รวม 10 ถังใหญ่ เกรงว่าหากเกิดระเบิดจะเป็นอันตรายต่อประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ทำให้การจราจรบริเวณที่เกิดหตุทั้งสองฝั่งติดขัดเป็นระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 30 นาทีจึงสามารถดับไฟได้ และรถบรรทุกพ่วงถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน ก่อนเปิดให้รถสัญจรผ่านไปมาได้ตามปกติ
จากการสอบถามประชาชนที่เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า รถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วสูงจากทางด้าน ต.จอหอ มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งขณะขับรถมาถึงที่เกิดเหตุสังเกตเห็นรถวิ่งส่ายไปมาผิดปกติก่อนเสียหลักพุ่งชนกับเสาไฟฟ้าส่องสว่างอย่างรุนแรงจนเสาไฟฟ้าขาดกระเด็นรถตกลงไปในร่องน้ำกลางถนนและเกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ส่วนคนขับเป็นชายวัยกลางคน อายุประมาณ 40 -50 ปี หลังเกิดเหตุได้ปีนกระโดดออกมาจากตัวรถก่อนวิ่งหลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนขับรถบรรทุกพ่วงคงขับรถมาเป็นเวลานานจนอ่อนเพลียจึงหลับในทำให้เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งจะได้ตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถสืบหาผู้ครอบครองรถเพื่อติดต่อมาให้ข้อมูลและพาตัวคนขับรถคันดังกล่าวมาสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
