บุกจับสาวลาวคาร้านโอเกะดังเมืองปัว-ชาวบ้านร้องแฝงค้าประเวณี

น่าน - นายอำเภอปัว เมืองน่าน นำปลัดฯ-อส.บุกตรวจค้นร้านคาราโอเกะชื่อดังของอำเภอ พบสาวลาวเกือบ 30 คนคอยนั่งให้บริการแขก ขณะที่ชั้น 2 ของร้านถูกแบ่งซอยเป็นห้องให้บริการร้องเพลง และคล้ายกับห้องพัก

เมื่อคืนที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) นายสมยศ พุ่มน้อย นายอำเภอปัว จ.น่าน พร้อมด้วยนายสมบูรณ์ อุดทังไข, นายธินวัฒน์ สมควร, นายธีราพร หมั่นแก้ว ปลัดอำเภอ และกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ได้บุกเข้าตรวจค้นร้านปัวคาราโอเกะ เลขที่ 290 หมู่ 2 ต.ปัว อ.ปัว จ.น่าน หลังได้รับร้องเรียนว่าส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้าน ทั้งยังอาจมีพฤติกรรมลักลอบนำสาวลาวมาค้าประเวณี ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่นักเที่ยวกลางคืน

โดยพบว่าร้านดังกล่าวอยู่ในอาคารตึกแถว 2 ชั้น ภายในพบผู้หญิงนุ่งสั้นนั่งอยู่จำนวนมาก และบางส่วนนั่งดื่มสุรากับแขกภายในร้าน เมื่อพบเจ้าหน้าที่บรรดาหญิงสาวเหล่านั้นได้พากันวิ่งแตกตื่นไปตามมุมห้องต่างๆ แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมได้ทั้งหมดรวม 28 ราย ตรวจสอบเป็นชาวลาวอายุระหว่าง 19-23 ปี มีใบอนุญาตเข้าเมืองเพียง 7 ราย และมีนายสมหวัง การธนมงคล อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 3 ต.ป่ากลาง อ.ปัว จ.น่าน ออกมายอมสารภาพรับเป็นเจ้าของร้าน

นายสมหวังอ้างว่า หญิงสาวชาวลาวทั้งหมดเดินทางเข้ามาสมัครทำงานเอง ตนไม่ได้บังคับขู่เข็ญ และไม่มีการค้าบริการ โดยทางร้านจ้างมาให้บริการลูกค้าตามโต๊ะ และภายในห้องคาราโอเกะเท่านั้น แต่หากจะมีการค้าประเวณีอย่างที่มีผู้ร้องเรียนก็น่าจะเป็นการตกลงกันเองกับลูกค้า ซึ่งทางร้านไม่รู้เรื่อง

อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบภายในร้าน พบชั้น 2 ของตึกถูกแบ่งซอยออกเป็นห้องเล็กๆ ไว้เป็นห้องคาราโอเกะ และบางส่วนคล้ายเป็นห้องพักด้วย

ภายหลังการสอบสวน ในเบื้องต้นจึงควบคุมตัวนายสมหวัง การธนมงคล เจ้าของร้าน ในข้อหาประกอบกิจการโดยใช้แรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย ส่วนหญิงสาวชาวลาวจำนวน 28 คนถูกตั้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายสมยศ พุ่มน้อย นายอำเภอปัว จ.น่าน เปิดเผยว่า หลังมีการร้องเรียนมา ทางเราได้ส่งเจ้าหน้าที่ปลอมตัวเข้าไปตรวจสอบก่อนวางแผนเข้าจับกุม ซึ่งร้านดังกล่าวตกแต่งเป็นร้านเหล้า คาราโอเกะ มีหญิงสาวชาวลาวนับสิบชีวิตคอยเสิร์ฟอาหาร-เครื่องดื่ม แต่ไม่พบหลักฐานการค้าบริการทางเพศ