กรมทรัพยากรน้ำฟังความคิดเห็นจัดทำร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ

ระยอง - กรมทรัพยากรน้ำ ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ทรัพยากรน้ำ เพื่อลดความขัดแย้ง และการยอมรับในทุกภาคส่วน ด้วยการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วทุกภาคของประเทศ

วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่โรงแรมคามีโอ แกรนด์ อ.เมืองระยอง นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาทบทวน และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ... โดยกรมทรัพยากรน้ำร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดทำโครงการฯ มีผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนเข้าร่วมรับฟัง

นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า การจัดทำโครงการศึกษาทบทวนและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อจัดทำร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ... เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน เพื่อลดความขัดแย้งและการยอมรับในทุกภาคส่วน ด้วยการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วทุกภาคของประเทศ ในการระดมความคิดเห็นในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ... ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี

1.เพื่อให้มีกฎหมายแม่บทเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ ปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำมีหลายด้าน เช่น ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาการขาดแคลนน้ำ กาแย่งชิงน้ำ การใช้น้ำอย่างฟุ่มเฟือย การก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำ การบุกรุก และการเสื่อมโทรมของแหล่งน้ำ มีหลายหน่วยงานดำเนินการอยู่ตามอำนาจหน้าที่ของกฎหมายหลายฉบับ ทำให้เกิดความไม่เป็นเอกภาพในการดำเนินการแก้ไข

2.มีหลักเกณฑ์การมีส่วนร่วมของประชาชน เพราะในการจัดทำกิจกรรมและโครงการบางอย่างเพื่อแก้ไขปัญหา ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อวิถีชีวิตของชุมชนในท้องถิ่น

นายวิชิต กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ... เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นเพื่อวางหลักเกณฑ์ และมาตรการในการรับประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน การควบคุมการใช้น้ำ การบริหารจัดการน้ำ การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ฟื้นฟูและอนุรักษ์แหล่งน้ำ การกระจายอำนาจ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในลุ่มน้ำ รวมทั้งจัดตั้งองค์กรที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรน้ำในระดับชาติ และลุ่มน้ำรวมทั้งองค์กรผู้ใช้น้ำ

นางปัทมา ปานประชา ผู้อำนวยการกลุ่มงานนิติการ กรมทรัพยากรน้ำ กล่าวในตอนหนึ่งว่า กรมทรัพยากรน้ำได้ดำเนินการยกร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำให้มีกฎหมายแม่บทในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตั้งแต่ พ.ศ.2545 เป็นต้นมา โดยการนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีหลายครั้ง ในหลายรัฐบาล แต่เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำเป็นกฎหมายที่มีเนื้อหาสาระที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก และยังมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ในหลายหน่วยงานราชการ ที่ผ่านมา ได้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลมาหลายครั้ง ทำให้ร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำไม่สามารถดำเนินการให้ลุล่วงไปได้ และยังมีการยกร่างกฎหมายด้านทรัพยากรน้ำขึ้นอีกหลายฉบับจากฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายนิติบัญญัติ รวมทั้งมีข้อคิดเห็น และเสนอแนะจากประชาชนเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ กรมทรัพยากรน้ำ จึงได้เสนอให้บรรจุร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2554 ลงมติเห็นชอบแผนการตรากฎหมายที่จำเป็นกับการดำเนินการตามนโยบายและแผนการบริหารราชการแผ่นดินกำหนดระยะเวลาที่คาดว่าจะเสนอร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือนกันยายนนี้

ดังนั้น เพื่อจัดทำร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำซึ่งเป็นกฎหมายที่สำคัญของแผ่นดิน ให้มีเนื้อหา และสาระที่สอดคล้องกับสถานการณ์และปัญหาทรัพยากรน้ำที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ อันเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเพื่อลดความขัดแย้งและสร้างการยอมรับให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วน