ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เวทีผ่าความจริงของ ปชป.ที่ลำพูนเริ่มป่วน หลังคนเสื้อแดงชุมนุมต้าน พร้อมยิงหัวนอต-ลูกแก้วใส่บริเวณเวที พร้อมประกาศลั่นเตรียมบุกแน่หาก “อภิสิทธิ์” มาถึง ขณะที่ตำรวจตรึงกำลังเข้มกันไม่ให้สองฝ่ายประจันหน้า ด้าน ปชป.ยันมีหลักฐานเพียบเสื้อแดงชุมนุมผิด กม.-ตั้งใจทำร้ายคน เตรียมมอบตำรวจดำเนินคดี
รายงานข่าวจากจังหวัดลำพูนแจ้งว่า บรรยากาศการจัดเวที “ผ่าความจริง” ของพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ (8 มิ.ย.) ที่ลานสวนไผ่ ริมแม่น้ำกวง บ้านสันมะกรูด ตำบลบ้านแป้น อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน พบว่าแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ต่างทยอยขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชนและกลุ่มผู้สนับสนุนที่มารับฟังอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาชุมนุมต่อต้านการจัดเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ยังคงปราศรัยโจมตีอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งประกาศว่าจะบุกเข้าในบริเวณพื้นที่จัดงาน หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เดินทางมาถึง
รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มคนเสื้อแดงทั้งในจังหวัดลำพูนและจากจังหวัดใกล้เคียงอย่างเชียงใหม่ และลำปาง จำนวนประมาณ 500 คน ได้ชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานใกล้กับทางเข้าร้านอาหารสวนไผ่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถบรรทุกผู้ต้องหามาจอดกั้นตรงสะพาน พร้อมทั้งตั้งรั้วเหล็กและระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการอยู่บนสะพานเพื่อสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าใกล้พื้นที่การจัดเวทีผ่าความจริงได้
รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า ระหว่างที่แกนนำจากพรรคประชาธิปัตย์และพิธีกรจากช่องบลูสกายแชนเนลทยอยขึ้นเวทีผ่าความจริง ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านทางช่องบลูสกายแชนเนลด้วยนั้น ปรากฏว่ากลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมต่อต้านได้มีการจุดประทัด พลุ พร้อมทั้งยิงหนังสติ๊กเข้ามาในบริเวณเวทีอย่างต่อเนื่อง และต่อมายังพบว่ามีการยิงลูกแก้วและหัวนอตเข้ามาภายในบริเวณอีกด้วย
โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง ได้ให้สัมภาษณ์สดออกอากาศทางช่องบลูสกายแชนเนลถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ก่อนที่นายสาทิตย์จะได้ขึ้นปราศรัยบนเวที พร้อมทั้งนำลูกแก้วที่อ้างว่ากลุ่มคนเสื้อแดงได้ยิงเข้ามาภายในบริเวณเวทีจัดงานมาแสดงอีกด้วย
ทั้งนี้ นายสาทิตย์ได้ปราศรัยบนเวทีว่ามีการเก็บหลักฐานการยิงลูกแก้วและหัวนอตเข้ามาภายในบริเวณเวทีเอาไว้แล้ว รวมทั้งได้มีการบันทึกการออกอากาศผ่านทางสถานีวิทยุของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งมีการปลุกระดมให้คนเสื้อแดงออกมาต่อต้านการจัดเวทีของพรรคเอาไว้ด้วยเช่นกัน โดยระบุว่าจะมีการส่งหลักฐานต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กสทช.เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป