อุบลราชธานี - ตำรวจ สภ.วารินชำราบ จับ 3 ผู้ต้องหาครอบครองไม้พะยูงหวงห้ามจำนวนกว่า 30 ท่อน มูลค่ากว่าล้านบาท เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างไม่รู้ใครเป็นเจ้าของ
วันนี้ (4 มิ.ย.) พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผกก.สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี แถลงข่าวการจับกุมไม้พะยูง ซึ่งขบวนการตัดไม้เถื่อนนำมาซุกซ่อนไว้ในกระท่อมนา ข้างเตาเผาอิฐบ้านขัวไม้แก่น หมู่ 2 ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบนายทองมี สุโกพันธ์ อายุ 77 ปี เจ้าของกระท่อมนา นายอุทัย คำอำ อายุ 37 ปี นางคำหมูน สดชื่น อายุ 36 ปี เป็นผู้ดูแลไม้พะยูงดังกล่าว
ซึ่งไม้พะยูงดังกล่าวเป็นไม้ตัดใหม่เป็นท่อนยาว 2-3 เมตร จำนวน 30 ท่อน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การภาคเสธอ้างว่า เมื่อหลายเดือนก่อน มีคนลำเลียงไม้ทั้งหมดมาทิ้งเอาไว้ โดยไม่ทราบใครเป็นเจ้าของ และพวกตนไม่กล้าเข้าไปลำเลียงออกไปไว้ที่อื่นจึงทิ้งไม้ไว้ตามปกติ
แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อจึงแจ้งข้อหาคนทั้ง 3 ร่วมกันทำไม้ และมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองเกิดปริมาตรที่กฎหมายกำหนด พร้อมคุมตัวดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (4 มิ.ย.) พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผกก.สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี แถลงข่าวการจับกุมไม้พะยูง ซึ่งขบวนการตัดไม้เถื่อนนำมาซุกซ่อนไว้ในกระท่อมนา ข้างเตาเผาอิฐบ้านขัวไม้แก่น หมู่ 2 ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบนายทองมี สุโกพันธ์ อายุ 77 ปี เจ้าของกระท่อมนา นายอุทัย คำอำ อายุ 37 ปี นางคำหมูน สดชื่น อายุ 36 ปี เป็นผู้ดูแลไม้พะยูงดังกล่าว
ซึ่งไม้พะยูงดังกล่าวเป็นไม้ตัดใหม่เป็นท่อนยาว 2-3 เมตร จำนวน 30 ท่อน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การภาคเสธอ้างว่า เมื่อหลายเดือนก่อน มีคนลำเลียงไม้ทั้งหมดมาทิ้งเอาไว้ โดยไม่ทราบใครเป็นเจ้าของ และพวกตนไม่กล้าเข้าไปลำเลียงออกไปไว้ที่อื่นจึงทิ้งไม้ไว้ตามปกติ
แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อจึงแจ้งข้อหาคนทั้ง 3 ร่วมกันทำไม้ และมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองเกิดปริมาตรที่กฎหมายกำหนด พร้อมคุมตัวดำเนินคดีต่อไป