มุกดาหาร - เกิดเหตุสลด ชาย 3 คนเข้าไปหาเหล็กไหลในถ้ำพุง บ้านนาโด่ อ.เมืองมุกดาหาร ซึ่งขณะนี้นำศพออกมาได้แล้ว 2 ราย ส่วนที่เหลือ 1 รายยังอยู่ระหว่างค้นหา ซึ่งก็ไม่รู้ชะตากรรมว่ามีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว แต่คาดว่าเสียชีวิตทั้งหมด
วันนี้ (27 พ.ค.) เวลา 13.30 น. ร้อยตำรวจโท สุรเดช บุญพิทักษ์ชัย ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธร เมืองมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 12 บ้านนาโด่ ตำบลนาโสก อำเภอเมือง มุกดาหาร มีชายเสียชีวิตอยู่ปากถ้ำพุง หมู่ที่ 12 บ้านนาโด่ หลังจากที่ได้ดำน้ำมุดเข้าไปหาเหล็กไหลภายในถ้ำพุงกับเพื่อนอีก 2 คน และได้มีพระรูปหนึ่งนำศพออกมาได้ 1 ราย ส่วนที่เหลือ 2 คนที่ติดอยู่ภายในถ้ำไม่ทราบยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว จึงขอรับการช่วยเหลือ
ซึ่งหลังจากรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และพร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.อุกกฤษณ์ ทรงชัยสงวน ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร และแพทย์จากโรงพยาบาลมุกดาหาร ไปที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ในหุบเขา ป่าลึก และห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ต้องเดินลัดเลาะโขดหิน ประมาณ 500 เมตรจึงถึงที่เกิดเหตุ
บริเวณปากถ้ำพุง พบศพชาย ทราบชื่อคือ นายเงิน ชาธิพา อายุ 59 ปี อยู่บ้านพรานอ้น ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร อยู่ในสภาพขาวซีดอยู่บริเวณโขดหินปากถ้ำ โดยมีญาติ และชาวบ้านที่ทราบข่าวมุงดูเป็นจำนวนมาก และต่างก็พูดไปต่างๆ นานาถึงการเสียชีวิตครั้งนี้ จากการชันสูตรพลิกศพไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย นอกจากใบหน้าและลำตัวขาวซีดจากการแช่น้ำหลายชั่วโมง
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พระเชน เตชะวันโต อายุ 69 ปี อยู่วัดสว่างอุดมพร บ้านนาถ่อนน้อย ตำบลโพนทราย อำเภอเมืองมุกดาหาร พร้อมด้วยนายสงบ อันแสน บุตรชาย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 245 บ้านพรานอ้น ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร นายเงิน ชาธิพา อายุ 68 อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 13 บ้านพรานอ้น และนายธนโชติ ลินโต อายุ48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 3 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยญาติรวม 9 คน ไปหาสมุนไพรและพักค้างคืนที่ลานหินใกล้กับถ้ำพุง
ประกอบกับเชื่อว่าภายในถ้ำพุงมีเหล็กไหลจึงคิดเข้าไปเอาเป็นสมบัติของตนเอง โดยในช่วงเที่ยงของวันที่ 26 พฤษภาคม หลังจากหาสมุนไพร นายเงิน นายสงบ และนายธนโชติได้พากันเข้าไปเอาเหล็กไหลภายในบริเวณถ้ำ โดยก่อนเข้าไปได้จุดธูปเทียนขอขมาเจ้าที่เจ้าทางบริเวณปากถ้ำ จากนั้นได้เข้าไปปากถ้ำดำน้ำมุดเข้าไปภายในถ้ำ โดยมีญาติ ซึ่งเป็นผู้หญิงนั่งรอที่บริเวณปากถ้ำ
จนกระทั่งเช้าวันใหม่ (27 พ.ค.) ทั้ง 3 คนก็ยังไม่โผล่ออกมาจากถ้ำ บรรดาญาติๆ เกรงว่าคงได้รับอันตรายจึงไปตามคนในหมู่บ้านมาช่วย และบังเอิญไปพบพระชัยชนะ กิตติสาโร วัดภูสร้างกำลังออกบิณฑบาต จึงได้นิมนต์ให้มาช่วยเหลือ ซึ่งพระชัยชนะต้องดำน้ำเข้าไปภายในถ้ำถึง 2 เที่ยว และลึกเข้าไปประมาณ 2 เมตรจึงควานหาผู้ที่ติดอยู่ในถ้ำลึกออกมาได้ 2 ราย คือ นายเงิน ชาธิพา อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 3 บ้านพรานอ้น ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร นายสงบ อันแสน อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 245 ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร
ซึ่งได้เสียชีวิตติดอยู่ผนังในถ้ำในลักษณะหันหัวออกปากถ้ำ ส่วนที่เหลืออีก 1 คนยังค้นหาไม่พบ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ลึกเข้าไปภายในถ้ำ และสุดความสามารถที่จะช่วยเหลือหรือนำออกมาได้เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์ช่วยหายใจ และเกรงจะเป็นอันตราย
พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งได้ไปสั่งการให้ความช่วยเหลือผู้ติดอยู่ภายในถ้ำ กล่าวว่า จากการสอบถาม นายสลัต อุคำ ผู้ใหญ่บ้าน ทราบว่า ถ้ำพุงจะเป็นถ้ำที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน ภายในถ้ำมีลานหินและโพลงขนาดใหญ่ จุคนได้ไม่ต่ำกว่า 50 คน เมื่อถึงฤดูแล้งชาวบ้านจะเข้าไปหากบหาเขียด ซึ่งมีชุกมาก และเมื่อถึงหน้าฝนมีน้ำท่วมขังชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปกลัวอันตราย และชาวบ้านเชื่อว่าภายในถ้ำแห่งนี้มีเหล็กไหลเพราะเคยมีคนเห็น
แต่ไม่มีใครกล้านำออกไปเพราะกลัวอาถรรพ์ และมีอันเป็นไปถึงแก่ชีวิต แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าผู้ตาย และเพื่อน 2 คนที่ติดอยู่ภายในคงเข้าไปหาเหล็กไหลตามความเชื่อที่ได้ยินมา โดยหลังจากได้ทำพิธีและจุดธูปเทียนขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง สังเกตได้จากเศษธูปเทียนที่จุดบูชาบริเวณปากถ้ำ จึงได้ดำน้ำมุดเข้าไปภายในถ้ำ
แต่เนื่องจากไม่ใช่คนในพื้นที่และไม่ทราบว่าภายในถ้ำอันตราย หรือมีอากาศหายใจหรือไม่ จึงเสี่ยงเข้าไปจนเสียชีวิต 2 ราย และสูญหายไป 1 คน ซึ่งก็ไม่ทราบชะตากรรมว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรเมืองมุกดาหารช่วยเหลือเต็มที่ โดยได้ประสานนักประดาน้ำในพื้นที่และจังหวัดข้างเคียงมาให้การช่วยเหลือและค้นหาผู้ที่ติดอยู่ภายในถ้ำ ล่าสุดในช่วงเย็นของวันเดียวกันนักประดาน้ำสามารถนำศพออกมาได้อีก 1 ราย คือนายสงบ อันแสน
ส่วนที่เหลือคือ นายธนโชติ ลินโต ยังค้นหาไม่พบ แต่เนื่องจากว่าเป็นช่วงเย็นและเริ่มมืดและมองเห็นไม่ชัดเจน นักประดาน้ำจึงได้หยุดการค้นหาชั่วคราว และจะค้นหาใหม่ในวันต่อไป