ชาวเมืองโอ่งผวา! หลังลือสะพัดมีคนพบจระเข้ตัวใหญ่โผล่กลางแม่น้ำแม่กลอง

ราชบุรี - ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ในพื้นที่ตำบลราบ เมืองราชบุรี ผวาหนัก หลังมีข่าวลือว่ามีคนพบเห็นจระเข้ตัวใหญ่ขึ้นมานอนเกยตื้นอ้าปากที่กระชังปลาทับทิมที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ทำให้ไม่กล้าลงไปงมกุ้งหาปลา วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน

วันนี้ (20 พ.ค.) ชาวบ้านใน ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้แจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบว่า มีผู้พบเห็นจระเข้ตัวใหญ่ขึ้นมานอนเกยตื้นอ้าปากที่บริเวณกระชังปลาทับทิมที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ในหมู่ 4 ต.ท่าราบ อ.เมืองราชบุรี ทำให้ชาวบ้านตกอยู่ในอาการหวาดผวา ไม่กล้าลงไปงมกุ้ง หาปลา หรือใช้ชีวิตปกติในแม่น้ำแม่กลองได้ จึงเดินทางไปตรวจสอบ และพิสูจน์ความจริง

นางปทุม หนูน้อย อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 3 ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ได้ทราบข่าวว่ามีคนเห็นจระเข้ตัวใหญ่ที่แม่น้ำแม่กลอง ก็รู้สึกกลัว จึงได้ห้ามลูกหลานซึ่งปกติก็ชอบเป็นเล่นน้ำที่ริมตลิ่งแม่น้ำแม่กลอง หรือชอบไปงมมากุ้งแม่น้ำ ไม่ให้ลงไปที่แม่น้ำอีก เพราะกลัวว่าจะโดนจระเข้กัดเอา ทั้งที่ปกติเด็กๆ จะลงไปเล่นน้ำงมหากุ้งกันประจำเพราะช่วงนี้อากาศร้อน และก็ไม่รู้ว่าจะไปแจ้งหน่วยงานไหนให้มาตรวจสอบเพราะไม่เห็นกับตาตัวเองเพียงแต่มีการบอกต่อกันมา จึงเกรงว่าถ้าไปแจ้งให้ทราบแล้วจะไม่มีใครเชื่อ ได้แต่ห้ามลูกหลานไม่ให้ลงไปในแม่น้ำอีก

นายอานนท์ พุกเวชชกิจ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 3 ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี กล่าวว่า ปกติตนมีอาชีพไปงมกุ้ง และหาปลาในแม่น้ำ และได้พบกับหัวจระเข้ที่ตายแล้วจำนวนหลายหัวที่คาดว่าน่าจะเป็นฟาร์ม หรือมีคนฆ่าจระเข้เอาเนื้อแล้วนำหัวมาทิ้งที่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง และเมื่อมีข่าวว่ามีคนพบจระเข้ตัวจริงในแม่น้ำ ตอนนี้ก็เลยไม่กล้าจะไปลงงมหากุ้งอีกเพราะกลัวเหมือนกัน

นางภัทฑริดา ครองวิริยะภาพ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 4 ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี บอกว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา นายพุทธภณ ครองวิริยะภาพ อายุ 22 ปี ลูกชายของตนซึ่งก็มีอาชีพลงไปงมหากุ้งในแม่น้ำก็ขึ้นมาบอกว่า เห็นจระเข้นอนริมตลิ่งใกล้กับกระชังปลาทับทิมที่เลี้ยงไว้ริมแม่น้ำแม่กลอง จึงบอกว่าเป็นตัวเงินตัวทองหรือไม่ แต่ลูกชายยืนยันว่าเป็นจระเข้นอนอ้าปากอาบแดดอยู่ และตัวใหญ่เท่ากับแกลลอนน้ำมันขนาด 200 ลิตร ตนจึงรีบลงไปดูที่กระชังปลา ก็เห็นว่าบริเวณนั้นมีน้ำวน และขุ่นคล้ายกับมีอะไรจมลงไป จึงได้บอกว่าลูกว่าอย่าลงไปงมกุ้งอีกเพราะถ้าไปถูกตัวจระเข้อาจจะเป็นอันตรายได้

“จึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจจะเป็นกรมประมง หรืออะไรก็ได้มาช่วยตรวจสอบหน่อยว่าเป็นจระเข้หรือไม่ เพราะเกรงว่าถ้ามีจระเข้จริงอาจเข้าจะมากัดตาข่ายที่กั้นไว้เลี้ยงปลากระชังขาด และทำให้ปลาหลุดไปหมด และทุกวันนี้ชาวบ้านต่างก็หวาดผวาใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้”