ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เยาวชน และคณะครูเครือข่ายฅนรักษ์น้ำทั่วประเทศและหลายชาติ ร่วมประกาศเจตนารมณ์ตระหนักรู้ความสำคัญของ “น้ำ” ในเวทีประชุมสุดยอดผู้นำด้านน้ำแห่งเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 2 พร้อมเสนอให้รัฐสนับสนุนจัดการศึกษาเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำในทุกระดับชั้นเพื่อให้เกิดความรู้ และสร้างจิตสำนึก
วันนี้ (18 พ.ค.) ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายเยาวชนฅนรักษ์น้ำ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ของประเทศไทย และจากต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จำนวน 157 คน ที่เข้าร่วมเวทีเยาวชนคนรักษ์น้ำ (Youth Water Forum 2013) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมสุดยอดผู้นำด้านน้ำแห่งเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 14 -20 พฤษภาคม 2556 ได้ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ของเครือข่ายเยาวชนฅนรักษ์น้ำ ที่ตระหนักว่าน้ำมีความสำคัญในด้านของความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การผลิตอาหาร การอุปโภคบริโภคในครัวเรือน
การประกาศเจตนารมณ์ในครั้งนี้ มี น.ส.สุดารัก สุรางค์วิไล นักเรียนชั้น ม.4 จากโรงเรียนโกวิทย์ธำรงค์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนประกาศเจตนารมณ์ด้วยภาษาไทย และนายภูมิมินทร์ สว่างกุล นักเรียนชั้น ม.5 จากโรงเรียนเชียงใหม่คริสต์เตียน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนประกาศเจตนารมณ์ด้วยภาษาอังกฤษ ซึ่งเนื้อหาเจตนารมณ์ของเครือข่ายเยาวชน ฅนรักษ์น้ำที่มีการประกาศในครั้งนี้
คือ 1.ให้ปลูกฝังจิตสำนึกต่อการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาที่ยั่งยืน 2.กระทรวงศึกษาธิการควรมีส่วนร่วมในการเพิ่ม และพัฒนาหลักสูตรการอนุรักษ์น้ำตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับอุดมศึกษาอย่างจริงจัง และมีประสิทธิภาพ และ 3.ให้ทุกภาคส่วนมีการผลักดันให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของน้ำ และการใช้ทรัพยากรอย่างมีจิตสำนึก โดยเฉพาะทรัพยากรน้ำ
ขณะเดียวกัน ในส่วนคณะครูจังหวัดภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ จาก 32 โรงเรียน จำนวน 36 คน ที่เข้าร่วมในเวทีเยาวชน ฅนรักษ์น้ำ ในครั้งนี้ด้วย ได้ประกาศเจตนารมณ์ในเวทีครั้งนี้เช่นกัน ด้วยความตระหนักว่าสภาพปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำนับวันมีแต่จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความตระหนัก และจิตสำนึกในการใช้และอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ รวมไปถึงสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติให้แก่คนในประเทศ โดยเฉพาะเด็กเยาวชนที่ถือเป็นอนาคตของชาติ
แต่ที่ผ่านมาพบว่า ระบบการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนนั้นมิได้ตอบสนองต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเกิดปัญหาอุปสรรคหลายประการในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน จึงนำไปสู่การประกาศเจตนารมณ์ของครูที่จะร่วมกันอย่างแข็งขัน
ในการจัดทำหลักสูตรเพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรน้ำ ภาครัฐควรพิจารณาแนวทางการกำหนดนโยบายในการจัดการเรียนการสอน และภาครัฐตลอดจนทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาด้านทรัพยากรน้ำทุกระดับ เพื่อนำไปสู่การสร้างศักยภาพของบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก และเยาวชนให้เกิดจิตสำนึก และตระหนักในความสำคัญของ “น้ำ”