ตาก- เกิดเหตุไฟไหม้บ้านไม้หลังงามชายแดนแม่สอด ลามเผาบ้านพักแรงงานกะเหรี่ยง-พม่า วอด ต้องหนีตายกันอลหม่าน แถมเจอพิรุธที่เกิดเหตุอาจเป็นแหล่งซุกซ่อนต่างด้าว พบบางหลังมีคนอยู่กว่า 30-40 คน
วันนี้ (18 พ.ค.) พ.ต.อ.เอกราษฎร์ อินทร์ต๊ะสืบ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด จังหวัดตาก ได้รับแจ้งจากกองร้อยทหารพรานที่ 3505 บ้านท่าอาจ ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด ว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณท้ายหมู่บ้านวังตะเคียน หมู่ที่ 4 ตำบลท่าสายลวด จึงประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลนครแม่สอด-เทศบาลตำบลท่าสายลวด และองค์การบริหารส่วนตำบลท่าสายลวด เข้าช่วยดับเพลิง
ที่เกิดเหตุอยู่ในซอยโรงโม่หิน เพลิงกำลังโหมไหม้บ้านไม้ของนายสมชาย อนันตา อายุ 55 ปี และเป็นเจ้าของที่ดินที่ให้แรงงานพม่าเช่าอาศัย ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามควบคุมเพลิงด้วยความยากลำบาก เพราะระหว่างเพลิงไหม้มีลมกระโชกแรง ทำให้เปลวไฟขยายเป็นวงกว้างจะลุกลามไปยังบ้านพักชาวพม่าที่รอบๆ บริเวณนั้น จึงต้องให้แรงงานต่างด้าวชาวพม่าช่วยกันหาอุปกรณ์ดับเพลิงเท่าที่หาได้ช่วยกันสกัดเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านหลังอื่นๆ แต่สุดท้ายไฟได้ไหม้บ้านไปทั้งหมด 6 หลังคาเรือน
จากการสอบสวนของตำรวจทราบว่า ต้นเพลิงมาจากบ้านคนงานชาวพม่าหลังหนึ่ง และลุกลามไปยังหลังอื่น แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งว่ามีสาเหตุมาจากอะไร
อย่างไรก็ดี ทางตำรวจตั้งข้อสังเกตว่าบริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นแหล่งซุกซ่อนแรงงานพม่าที่ลักลอบเข้าเมืองแทบทุกวันในช่วงนี้ และยังพบว่า บ้านบางหลังมีแรงงานต่างด้าวกะเหรี่ยง-พม่า อาศัยอยู่กว่า 30-40 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้มีการสอบสวนขยายผลต่อไป
วันนี้ (18 พ.ค.) พ.ต.อ.เอกราษฎร์ อินทร์ต๊ะสืบ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด จังหวัดตาก ได้รับแจ้งจากกองร้อยทหารพรานที่ 3505 บ้านท่าอาจ ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด ว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณท้ายหมู่บ้านวังตะเคียน หมู่ที่ 4 ตำบลท่าสายลวด จึงประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลนครแม่สอด-เทศบาลตำบลท่าสายลวด และองค์การบริหารส่วนตำบลท่าสายลวด เข้าช่วยดับเพลิง
ที่เกิดเหตุอยู่ในซอยโรงโม่หิน เพลิงกำลังโหมไหม้บ้านไม้ของนายสมชาย อนันตา อายุ 55 ปี และเป็นเจ้าของที่ดินที่ให้แรงงานพม่าเช่าอาศัย ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามควบคุมเพลิงด้วยความยากลำบาก เพราะระหว่างเพลิงไหม้มีลมกระโชกแรง ทำให้เปลวไฟขยายเป็นวงกว้างจะลุกลามไปยังบ้านพักชาวพม่าที่รอบๆ บริเวณนั้น จึงต้องให้แรงงานต่างด้าวชาวพม่าช่วยกันหาอุปกรณ์ดับเพลิงเท่าที่หาได้ช่วยกันสกัดเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านหลังอื่นๆ แต่สุดท้ายไฟได้ไหม้บ้านไปทั้งหมด 6 หลังคาเรือน
จากการสอบสวนของตำรวจทราบว่า ต้นเพลิงมาจากบ้านคนงานชาวพม่าหลังหนึ่ง และลุกลามไปยังหลังอื่น แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งว่ามีสาเหตุมาจากอะไร
อย่างไรก็ดี ทางตำรวจตั้งข้อสังเกตว่าบริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นแหล่งซุกซ่อนแรงงานพม่าที่ลักลอบเข้าเมืองแทบทุกวันในช่วงนี้ และยังพบว่า บ้านบางหลังมีแรงงานต่างด้าวกะเหรี่ยง-พม่า อาศัยอยู่กว่า 30-40 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้มีการสอบสวนขยายผลต่อไป