มุกดาหาร - นรข.มุกดาหารผสานกำลัง กอ.รมน. ชุดปฎิบัติการปราบปรามทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม สตช.ตม.มุกดาหาร ตรวจยึดรถกระบะขนไม้พะยูง พร้อมจับกุมแก๊งลักลอบขนไม้พะยูงได้ 2 คน ไม้พะยูง 26 ท่อน มูลค่า 2 ล้านบาท เตรียมขนลงน้ำโขง
วันนี้ (17 พ.ค.) นาวาตรี กรภัทร ศรีพิพัฒน์ หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.มุกดาหาร) ได้รับรายงานจากชุดปฎิบัติการข่าวที่ 7 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ชปข.7 ) ว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบค้าไม้พะยูงทำการลำเลียงไม้พะยูงเข้ามาบริเวณพื้นที่ บ้านหว้านน้อย ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร โดยใช้รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ หมายเลขทะเบียน ถก 4367 กรุงเทพมหานคร มีหลังคาแครี่บอยติดสติกเกอร์คำว่าแลคตาซอยข้างรถเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ โดยใช้เส้นทางริมแม่น้ำโขงเพื่อนำไปส่งขายยังฝั่ง สปป.ลาว จึงได้ประสาน พ.อ.ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมุกดาหาร (กอ.รมน.) พงอ.สมชาติ แน่นอุดร ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 พ.ต.อ.เอกกมลต์ พรชูเกรียติ ผู้กำกับการทางหลวง พ.ต.ท.ธัชพล สุคนธมาน หัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมธรรมชาติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.ศุภโชค พณิชยพงศ์ สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร นำกำลังเจ้าหน้าที่แบ่งออกเป็น 2 ชุด ซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณพื้นที่ ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านหว้านน้อย ต.หว้านน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร
จนกระทั่งตรวจพบรถยนต์โตโยต้าไฮลักซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ถก 4367 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ใกล้กระท่อมเถียงนาริมฝั่งแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังออกโอบล้อมเข้าตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวพบชาย 2 คนเฝ้ารถยนต์อยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวตรวจค้นรถคันดังกล่าว พบไม้พะยูงขนาดใหญ่อยู่ท้ายรถกระบะโดยมีหลังคาแครี่บอยติดสติกเกอร์นมแลคตาซอยเพื่อหลอกเจ้าหน้าที่ว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถส่งนมแลคตาซอย แต่ตรวจสอบภายในรถยนต์แล้วพบไม้พะยูงเต็มคันรถจำนวน 26 ท่อน คิดมูลค่า 2 ล้านบาท
ส่วนผู้ต้องหา 2 คน ทราบชื่อคือนายเอกพงษ์ นิรินทร์ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 18 หมู่ 15 ต.บ้านฝาง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด และนายหมี คำบุดดี อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 27 หมู่ 15 บ้านฝาง ต.บ้านฝาง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่า ตนเองมารับจ้างเฝ้าดูแลบ้านและรถ ไม่รู้ว่ารถคันดังกล่าวบรรทุกไม้พะยูง เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงได้ทำการจับกุมทั้ง 2 คน และได้ตั้งข้อกล่าวหา ได้ร่วมกันมีไม้หวงห้าม (ไม้พะยูงท่อน) ที่ยังไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครอง มาตรา 69 มีไม้หวงห้าม (ไม้พะยูง) นำพาซ่อนเร้นไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง
เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลาง ส่ง สภ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (17 พ.ค.) นาวาตรี กรภัทร ศรีพิพัฒน์ หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.มุกดาหาร) ได้รับรายงานจากชุดปฎิบัติการข่าวที่ 7 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ชปข.7 ) ว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบค้าไม้พะยูงทำการลำเลียงไม้พะยูงเข้ามาบริเวณพื้นที่ บ้านหว้านน้อย ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร โดยใช้รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ หมายเลขทะเบียน ถก 4367 กรุงเทพมหานคร มีหลังคาแครี่บอยติดสติกเกอร์คำว่าแลคตาซอยข้างรถเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ โดยใช้เส้นทางริมแม่น้ำโขงเพื่อนำไปส่งขายยังฝั่ง สปป.ลาว จึงได้ประสาน พ.อ.ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมุกดาหาร (กอ.รมน.) พงอ.สมชาติ แน่นอุดร ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 พ.ต.อ.เอกกมลต์ พรชูเกรียติ ผู้กำกับการทางหลวง พ.ต.ท.ธัชพล สุคนธมาน หัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมธรรมชาติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.ศุภโชค พณิชยพงศ์ สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร นำกำลังเจ้าหน้าที่แบ่งออกเป็น 2 ชุด ซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณพื้นที่ ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านหว้านน้อย ต.หว้านน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร
จนกระทั่งตรวจพบรถยนต์โตโยต้าไฮลักซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ถก 4367 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ใกล้กระท่อมเถียงนาริมฝั่งแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังออกโอบล้อมเข้าตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวพบชาย 2 คนเฝ้ารถยนต์อยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวตรวจค้นรถคันดังกล่าว พบไม้พะยูงขนาดใหญ่อยู่ท้ายรถกระบะโดยมีหลังคาแครี่บอยติดสติกเกอร์นมแลคตาซอยเพื่อหลอกเจ้าหน้าที่ว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถส่งนมแลคตาซอย แต่ตรวจสอบภายในรถยนต์แล้วพบไม้พะยูงเต็มคันรถจำนวน 26 ท่อน คิดมูลค่า 2 ล้านบาท
ส่วนผู้ต้องหา 2 คน ทราบชื่อคือนายเอกพงษ์ นิรินทร์ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 18 หมู่ 15 ต.บ้านฝาง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด และนายหมี คำบุดดี อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 27 หมู่ 15 บ้านฝาง ต.บ้านฝาง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่า ตนเองมารับจ้างเฝ้าดูแลบ้านและรถ ไม่รู้ว่ารถคันดังกล่าวบรรทุกไม้พะยูง เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงได้ทำการจับกุมทั้ง 2 คน และได้ตั้งข้อกล่าวหา ได้ร่วมกันมีไม้หวงห้าม (ไม้พะยูงท่อน) ที่ยังไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครอง มาตรา 69 มีไม้หวงห้าม (ไม้พะยูง) นำพาซ่อนเร้นไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง
เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลาง ส่ง สภ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
