ขยายผลคดีไม้เถื่อน อช.ทุ่งแสลงหลวง-พบคนมีสีเอี่ยวด้วย

พิษณุโลก - ผู้ว่าฯเมืองสองแคว สั่งบูรณาการ จนท.ป่าไม้ - อุทยานฯ - ทหาร ร่วมรักษาผืนป่า ขณะที่ป่าไม้ ขยายผลคดีไม้เถื่อน อช.ทุ่งแสลงหลวง ขอหมายศาลค้นบ้านต้องสงสัยพบซุกไม้เถื่อนหลังบ้าน ผญบ.บอกเตือนแล้ว แต่คนสีกากีไม่ฟัง

วันนี้(16 พ.ค.56) นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางไปที่ริมน้ำเข็ก บ้านบ้านแก่งกุลาเหนือ หมู่ 12 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าการจับกุมไม้เถื่อน ทั้งไม้แดงแปรรูป - ไม้ตะเคียนท่อน โดยเข้าไปตรวจดูไม้ตะเคียน ที่ซุกซ่อนอยู่ริมน้ำเข็ก และตรวจสอบบริเวณรอบๆ โดยเฉพาะบ้านเลขที่ 127/1 หมู่ 12 ที่ห่างออกไปจากจุดที่พบไม้ 150 เมตร แต่ไม่พบผู้กระทำผิดหรือ เจ้าของบ้าน มีเพียงไม้แปรรูป ซึ่งเป็นไม้แดงจำนวน 24 แผ่นเหลี่ยมซุกซ่อนและอำพรางด้วยใบมะพร้าว

ขณะเดียวกันนายธรรมศักดิ์ พิทักษ์จารุพันธุ์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 กรมอุทยานฯ ได้สั่งการให้ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ 8 (น้ำยาง) ขอหมายศาลเพื่อค้นบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากตรวจสอบพื้นที่ในเขต อช.อุทยานทุ่งแสลงหลวง พบว่า มีการลักลอบตัดไม้แดงบริเวณบ้านโป่งพลู หมู่ 15 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จำนวน 3 ต้น และมีร่องรอยชักลากด้วยรถแทรกเตอร์ข้ามลำน้ำเข็กผ่านที่ดินชาวบ้าน ระยะทางประมาณ 150 เมตร และไปซุกซ่อนไว้ที่บ้านเลขที่ 127/1 หมู่ 12 พร้อมกับยึดไม้ของกลางเพื่อดำเนินคดีต่อไป

“สืบสวนทางลับพบว่า บ้านหลังนี้เป็นของนายสน พรหมาอินทร์”

ด้านนายบุณลือ จันทร์รอด ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง กล่าวว่า ได้เตือนลูกบ้านในที่ประชุมประจำเดือนทุกครั้งว่า ห้ามตัดไม้ทำลายป่า และรุกป่าใหม่ หรือเปิดป่าเพื่อทำกิน แต่บังเอิญว่า ยังมีกลุ่มที่ไม่เข้าใจ โดยเฉพาะคนมีสี(กากี) ที่มีพ่อแม่อาศัยอยู่ที่บ้านแก่งกุลาเหนือ แต่ไปทำกินในเมือง แต่กลับมาหาผลประโยชน์ในบ้านตัวเอง ไม่ค่อยสนใจที่คำเตือน

นายปรีชา กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ จนท.ป่าไม้ทำการจับกุมและยึดไม้แดงไว้ได้ เพราะพิษณุโลกถือว่า มีป่าไม้มาก จะต้องรักษาไว้ ไม้ท่อนที่พบริมน้ำเข็ก เป็นไม้เพิ่งตัดมาใหม่ ไม่ใช่ไม้เก่าลอยน้ำมาแน่ๆ สังสัยว่า อากาศร้อน เลยต้องแช่น้ำ ผมจึงสั่งให้ จนท.ป่าไม้ ทำการจับกุมและชี้เป้าผู้กระทำผิดให้ชัดเจน เพื่อป้องกันและป้องปรามไม่ให้ใครมาตัดไม้ในป่าอุทยานฯ อีก ถ้าไม่ปราม หรือจับกุม ก็ไม่สามารถสกัดขบวนการได้หมด

“จนท.อุทยาน, ป่าไม้, ตชดและทหาร จะต้องบูรณาการกันทำงานรักษาป่าไม้ ไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด จากนั้นจังหวัด จะสนับสนุนงบประมาณเพื่อป้องกันและรักษาป่าไม้ในจังหวัดพิษณุโลก”