กาญจนบุรี - กระสุนปริศนาพุ่งเจาะประตูเหล็กทะลุกระจกบ้านข้าราชการสาว ก.คลัง กลางดึกได้รับความเสียหาย ทำแม่อายุวัย 88 ปี ผวาถึงกับหลับไม่ลง ผกก.กาญจนบุรี ชี้น่าจะเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นที่ออกตระเวนเที่ยวเตร่ในช่วงกลางคืนแล้วมีอาการมึนเมาจนเกิดคึกคะนอง หรือไม่อาจจะเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นที่พกพาอาวุธปืนแล้วเกิดปืนลั่นทำให้กระสุนมาโดนบ้าน
เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (14 พ.ค.) ร.ต.ต.ชัยรัตน์ จันทร์อนันต์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจาก น.ส.ระวีวรรณ นุชดำรงค์ อายุ 50 ปี ข้าราชการประจำศูนย์ราชการกระทรวงการคลัง อยู่บ้านเลขที่ 286 ถ.ปากแพรก ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี ว่า ประตูเหล็กหน้าบ้านถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดทะลุมาโดนกระจกภายในบ้านแตกเสียหาย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.องพงษกร อุปพงษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (ผกก.สภ.) เมืองกาญจนบุรี
ไปถึงพบ น.ส.ระวีวรรณ และนางเสงี่ยม นุชดำรงค์ อายุ 88 ปี สองแม่ลูกนั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในบ้าน โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ สูง 2 ชั้น 2 คูหา หน้าบ้านเป็นประตูเหล็กแบบเลื่อนประกบ จากการตรวจสอบพบรูกระถูงยิงเข้าที่บริเวณประตูเหล็กด้านซ้ายสูงจากพื้นประมาณ 2 เมตร โดยคมกระสุนได้ทะลุไปโดนกระจกกั้นห้องเก็บเสื้อผ้าจนแตกเสียหาย พื้นบ้านมีเศษกระจกกระเด็นไปทั่วบริเวณ โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามค้นหาหัวกระสุนเพื่อนำมาเป็นหลักฐานแต่ไม่พบ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืนขนาด 11 มม.
น.ส.ระวีวรรณ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ที่ศูนย์ราชการกระทรวงการคลัง ขณะที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่กับแม่ 2 คน จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันนี้ แม่ที่กำลังนอนหลับอยู่ได้ยิงเสียงปืนดังมาจากนอกบ้าน 1 นัด จากนั้นได้ยินเสียงกระจกภายในบ้านแตก จึงตกใจตื่น และปลุกให้ตนขึ้นมาดู และก็พบว่ากระจกที่กั้นห้องเก็บเสื้อผ้าแตกจริง มีเศษกระจกกระจายเต็มพื้นบ้าน แต่เนื่องจากยังดึกอยู่จึงยังไม่ได้ออกไปตรวจสอบภายนอก ต้องรอจนกระทั่งเช้าจึงมาสำรวจอีกครั้ง และก็พบว่ามีร่องรอยของรูกระสุนปืนถูกยิงเข้าที่ประตูหน้าบ้าน จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ สำหรับแม่ของตนที่กำลังป่วย หลังตกใจตื่นก็ไม่ยอมนอนอีกเลย
ด้าน พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบวิถีกระสุน เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มวัยรุ่นที่ออกตระเวนเที่ยวเตร่ในช่วงเวลากลางคืนแล้วมีอาการมึนเมาจนเกิดคึกคะนองขึ้นมา หรือไม่อาจจะเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นที่พกพาอาวุธปืนแล้วเกิดปืนลั่นทำให้กระสุนมาโดนบ้านหลังดังกล่าว และจากการสอบถามก็พบว่า บ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่กันตามลำพังสองแม่ลูก ซึ่งไม่เคยไปมีปัญหากับใคร แต่อย่างไรก็ตาม แนวทางในการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นอีกกับบ้านเรือนราษฎรจนทำให้เสียทรัพย์สิน ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่เข้าเวรยาม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ให้เข้มข้นในการตรวจตรามากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้จับตากลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า 1 ถึง 2 เดือนที่ผ่านมา ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เคยถูกอาวุธปืนยิงเข้าบ้านมาแล้วหลายราย เช่น บ้านของป้าแป้น ซึ่งเป็นห้องแถว 2 ชั้น เปิดเป็นร้านขายของชำ ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ประตูหน้าบ้านจนเป็นรู ข้าวของภายในเสียหาย แต่ไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด ใกล้กัน บ้านของนายโต้ง (นามสมมติ) ก็ถูกอาวุธปืนยิงใส่บริเวณชั้นที่ 2 ของบ้าน แต่โชคดีทั้ง 2 เหตุการณ์ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต และทั้ง 3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนเกิดในช่วงเวลาประมาณตี 1 ถึงตี 2