ลำปาง/พะเยา - พายุถล่มหลายพื้นที่ในภาคเหนือ โดยที่อำเภอเมืองปานของลำปาง พบบ้านเรือนชาวบ้านเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน ต้นไม้หักโค่นขวางถนนเพียบ แถมไฟฟ้ายังใช้การไม่ได้นานกว่า 10 ชม.แล้ว ส่วนที่พะเยาทั้งบ้านเรือน-สวนลำไยเสียหายเพียบ
วันนี้ (12 พ.ค. 56) นายสมบูรณ์ คชาปัญญา นายก อบต.บ้านขอ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.บ้านขอ ผู้ใหญ่บ้านผู้นำชุมชน ตำรวจสายตรวจประจำตำบลบ้านขอ ได้เข้าพื้นที่สำรวจความเสียหายบ้านเรือนของประชาชน หลังได้เกิดพายุฝนกระหน่ำ และลมกระโชกแรง จนทำให้ไฟฟ้าดับนานกว่า 10 ชั่วโมง ยังไม่สามารถใช้การได้ เบื้องต้นพบบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายมากกว่า 100 หลังคาเรือน
โดยที่บ้านเลขที่ 138 หมู่ 10 บ้านทุ่งแล้ง ต.บ้านขอ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง โรงจอดรถได้พังถล่มทับรถยนต์ ได้รับความเสียหายไป 1 คัน โรงจอดรถอีก 1 หลัง ส่วนสภาพความเสียหายทั่วไปพบว่า มีหลังคาบ้านเรือนราษฎรปลิวตามกระแสลม และแตกเสียหายจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ หักโค่นขวางถนนสายหลักคือถนนสายลำปาง-เมืองปาน บริเวณเขตตำบลบ้านขอ เป็นระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร
ส่วนที่บริเวณทางเข้าบ้านทุ่งแล้งกอไผ่ ถูกพายุขุดรากถอนโคนล้มขวางปิดทางเข้าหมู่บ้านชาวบ้านที่สัญจรเส้นทางดังกล่าวต้องอ้อมไปใช้เส้นทางอื่น ซึ่งก็ทำให้ต้องเดินทางไกลออกไปอีกกว่า 5 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ขณะที่พายุฝนถล่มได้เกิดน้ำป่าไหลลากพัดเอาเศษกิ่งไม้ต่างๆ ลงลำห้วยไหลมากองในลำน้ำแม่ตุ๋ย เป็นจำนวนมาก แต่โชคดีที่ไม่ได้ถล่มเข้าหมู่บ้าน
ล่าสุดนายสมบูรณ์ คชาปัญญา นายก อบต.บ้านขอ ได้ประสานงานไปยังฝ่ายปกครองอำเภอเมืองปานและเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งประสานกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารจาก มณฑลทหารบกที่ 32 เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยแล้ว
นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่า ในเขตของตำบลวังใต้ อำเภอวังเหนือ ยังมีอีกประมาณ 8 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดพายุฝนถล่มเมื่อคืนที่ผ่านมาด้วยเช่นกันแต่ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก
ส่วนที่จังหวัดพะเยา วันเดียวกัน นายสมชาย เข็มเพชร ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) เวียงลอ อ.จุน จ.พะเยา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝนตกและมีลมพายุพัดเข้ามาในพื้นที่อย่างหนัก ทำให้เกิดความเสียหายในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ที่ 2,6,8 และ 9 ต.ลอ จำนวน 150 หลังคา สภาพความเสียหายหลังคาบ้านเรือนประชาชนถูกพัดเสียหาย กระเบื้องแตก 2,300 แผ่น สังกะสี 700 แผ่น และครอบหลังคา 1,000 อัน มูลค่าของความเสียหายในส่วนบ้านเรือนประชาชนประมาณ 300,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีสวนลำไยขนาดใหญ่อายุ 5-10 ปีถูกลมพัดหักโค่นทั้งลำต้นจำนวน 230 ต้น ผลลำไยที่กำลังโตและจะรอการเก็บเกี่ยวในเดือนกรกฎาคม 2556 นี้ ไม่สามารถเก็บผลผลิตได้อีกแล้ว ประมาณความเสียหายของลำไยเฉลี่ยมูลค่าต้นละ 5,000 บาท รวมมูลค่าลำไยเสียหายไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท และสรุปมูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 1.3 ล้านบาท
ที่ปรึกษานายก ทต.เวียงลอ กล่าวต่อว่า สำหรับหลังคาเรือนประชาชนที่เสียหาย ขณะนี้ทางเทศบาลได้ประสานงานกับจังหวัดทหารบก (จทบ.) พะเยา ได้สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อเข้ามาช่วยเหลือในการซ่อมแซมหลังคาบ้านเรือนให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยต่อไปอย่างเร่งด่วนแล้ว ส่วนกระเบื้องที่เสียหายขณะนี้เทศบาลได้รายงานขอรับการช่วยเหลือไปที่จังหวัดแล้ว จะต้องเร่งซ่อมหลังคาบ้านให้ประชาชน เพราะกลัวหากมีฝนตกและพายุพัดซ้ำประชาชนจะอยู่ลำบาก
คลิกเพื่อชมคลิป: