นครพนม - สุนัขแออัดแน่นด่านกักกันสัตว์นครพนมพุ่งกว่า 2,760 ตัว หลังเจ้าหน้าที่สะกัดแก๊งค้าสุนัขข้ามชาติได้ต่อเนื่อง ขณะที่งบกองทุนเลี้ยงสุนัขที่เคยมีกว่า 20 ล้านบาท ลดฮวบเหลือเพียง 3 ล้านบาท หวั่นกระทบการจัดการเลี้ยงสุนัขในด่านกักกันสัตว์ในอนาคต
รายงานข่าวจากจังหวัดนครพนมว่า หลังจากขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติลักลอบขนสุนัขจากไทยข้ามแม่น้ำโขงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ปลายทางที่ประเทศเวียดนาม แหล่งบริโภคใหญ่มานับ 10 ปีรับซื้อสุนัขมีชีวิตไม่อั้น โดยเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดนครพนม มีการสกัดตรวจยึดสุนัขได้หลายครั้ง และนำสุนัขทั้งหมดมาฟื้นฟูเลี้ยงดูที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม บริเวณบ้านภูเขาทอง ตำบลหนองญาติ อำเภอเมืองนครพนม ทำให้สุนัขภายในด่านกักกันสัตว์นครพนมเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นเท่าตัว
“เดิมเคยมีสุนัขอยู่ประมาณ 700 ตัว แต่หลังจากมีการตรวจจับอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตรวจยึดสุนัขบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงเขตอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม และเขตจังหวัดหนองคายจะนำสุนัขมาฟื้นฟูที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม ทำให้จำนวนสุนัขล่าสุดเพิ่มขึ้นถึง 2,760 ตัว สุนัขเกิดความแออัดยัดเยียดอยู่ในแต่ละคอก”
สัตวแพทย์หญิงขวัญใจ แก้วคำลา หัวหน้าดูแลสุนัขด่านกักกันสัตว์นครพนม กล่าวว่า สุนัขจำนวน 2,760 ตัว ถือว่าแออัดมาก โดยคอกทั้งหมดจะรองรับสุนัขได้ที่ 1,500 ตัว แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดขณะนี้ คือ เงินบริจาคจากผู้ใจบุญในกองทุนสุนัขจากเดิมที่มีกว่า 20 ล้านบาท ล่าสุดเหลือประมาณ 3 ล้านบาท เป็นงบค่าใช้จ่ายเลี้ยงสุนัขตั้งแต่อาหาร ยาเวชภัณฑ์ ตลอดจนค่าอุปกรณ์ รวมถึงเงินเดือนสัตวแพทย์
“ค่าจ้างชาวบ้านมาเลี้ยงคนละ 7,000 บาท/เดือน ซึ่งต้องทำงานทุกอย่างตั้งแต่ล้างมูลสุนัข ดูแลคอก ให้อาหารดูแลสุนัขป่วย เฉลี่ยเฉพาะเงินเดือนตกเดือนละกว่า 1 แสนบาท หากเงินกองทุนหมดจะทำให้ไม่มีเงินค่าจ้างลูกจ้างที่ต้องจ้างหลายคน อาจกระทบต่อการจัดการเลี้ยงสุนัขในอนาคตได้”