“เสริมศักดิ์” กำชับผู้บริหารการศึกษาเร่งสนองนโยบายการศึกษารัฐบาล

สกลนคร - รัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาการเน้นย้ำข้าราชการครู-ผู้บริหารสถานศึกษาร่วมขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านการศึกษาอย่างจริงจัง มุ่งพัฒนาทั้งผู้สอนและผู้ศึกษาให้มีประสิทธิภาพพร้อมรับการเปิดประชาคมอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้า

วันนี้ (7 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 (สปพ.) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ พร้อมมอบนโยบายแก่ข้าราชการครูในพื้นที่ โดยมีนายบุญส่ง มณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร และข้าราชการครู ผู้บริหารโรงเรียน เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการศึกษาจำนวนมากให้การต้อนรับ

รัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาธิการระบุถึงการเดินทางตรวจเยี่ยมครั้งนี้ว่า เพื่อเน้นย้ำให้ข้าราชการครูได้ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล ด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ คือ ปรับเปลี่ยนแนวทางวิธีการทำงานให้เหมาะสม และต้องมีบทบาทในการสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายด้านอื่นๆ ตามไปด้วย รวมทั้งมุ่งเน้นให้ทุกส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานให้มากขึ้น ผู้บริหารต้องให้ความสำคัญ และการขับเคลื่อนให้จริงจัง โดยเฉพาะการเร่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาและคุณภาพของผู้ศึกษาให้สอดคล้องในหลักสูตรและเนื้อหาสาระ

รวมทั้งการส่งเสริมการพัฒนาด้านสุขภาพ และโภชนาการให้เหมาะสมแก่วัย อีกทั้งปลูกฝังคุณธรรมและจิตสำนึกประชาธิปไตย โดยให้ดำเนินการนำโครงการโรงเรียนวิถีพุทธ โครงการครูพระสอนศีลธรรม และโครงการปฏิบัติธรรมสำหรับผู้บริหารมาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม หรือแม้กระทั่งผู้พิการทุพพลภาพ สิ่งเหล่านี้ต้องให้การช่วยเหลือ และเช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมุ่งเน้นให้ทุกสถานศึกษาต้องไม่มียาเสพติดเป็นโรงเรียนสีขาว ปลอดยาเสพติด โดยให้ความรู้ถึงโทษภัยของยาเสพติด และความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและการรับโทษเมื่อกระทำผิด

นอกจากนั้น การแก้ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของเด็ก และเยาวชน เช่น ตั้งครรภ์ก่อนวัยเรียน ต้องให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างถูกต้อง เด็กติดเกม ต้องสอนให้เด็กมีภูมิคุ้มกัน และปัญหาการทะเลาะวิวาทและใช้ความรุนรง โดยเฉพาะระดับอาชีวศึกษา

“แต่ละประเด็นข้างต้นล้วนแล้วมีความสำคัญและเป็นนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ภายในปี 2558 อีก 2 ปีข้างหน้า”