ตำรวจแหลมฉบังจับ “แก๊งเจ๊เพ็ญ” ปล่อยเงินกู้โหดนอกระบบ ทำสัญญาซื้อทอง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง จับสมุนแก๊ง “เจ๊เพ็ญ” แก๊งปล่อยเงินกู้โหดนอกระบบ คิดอัตราร้อยละ 20 ทำสัญญาถ่ายภาพเสมือนว่าซื้อทองของบริษัท แต่ไม่ได้ให้ทองไป ตามเก็บรายวัน พบมีหลายสาขาทั่วจังหวัดชลบุรี

เวลา 20.30 น. วันนี้ (1 พ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พ.ต.ท.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผกก.สส.สภ.แหลมฉบัง ได้แถลงข่าวการจับกุมแก๊งเก็บเงินกู้นอกระบบ ชื่อแก๊งเจ๊เพ็ญ ได้ลูกสมุน จำนวน 2 คน ทราบชื่อคือ นายวันชัย สิทธนะ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.9 ตำบลตูม อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ และนายอานนท์ หุ่นทองกลาง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 11 ตำบลหนองพลวง อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน กระเป๋าคาดเอวพร้อมเงินสดจากการเก็บเงินกู้จากลูกหนี้ จำนวน 55,000 บาท บัญชีรายชื่อลูกค้า สัญญาปล่อยเงินกู้โดยอำพรางเป็นสัญญาซื้อขายทองรูปพรรณจำนวนมาก กล้องถ่ายรูป สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึก 1 เส้น นามบัตรเชิญชวนให้มากู้เงิน จำนวน 50 ใบ

เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ที่ตลาดบ้านทุ่ง หมู่ 2 ตำบลทุ่งศุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จากการสอบสวนทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันปล่อยเงินกู้ในพื้นที่อำเภอศรีราชา อำเภอบางละมุง และพื้นที่ใกล้เคียงมาเป็นระยะเวลานานแล้ว

โดยติดนามบัตรไว้ตามตู้โทรศัพท์ และที่สาธารณ ะเมื่อมีผู้สนใจจะกู้เงินพวกตนก็จะทำสัญญาเช่าซื้อทองรูปพรรณ โดยทำสัญญาว่าเป็นบริษัทเคทีบี อิเลคทริค แอนด์ เซอร์วิส ถ้าลูกค้าต้องการกู้เงิน 5,000 บาท ก็จะทำสัญญาซื้อขายทองรูปพรรณกับผู้กู้เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง คิดเป็นเงิน 6,900 บาท โดยผ่อนชำระรายวัน วันละ 150 บาท เก็บ 46 วัน เป็นเงิน 6,900 บาท แล้วถ่ายภาพเป็นหลักฐาน แต่ไม่มีการส่งมอบทองแต่อย่างใด ซึ่งคิดเป็นอัตรร้อยละ 20 บาทต่อเดือน โดยมีนายทุนทราบชื่อว่าชื่อ “เจ๊เพ็ญ” เป็นนายทุนออกเงินให้

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงไปค้นห้องพักของผู้ต้องหา พบเอกสารทำสัญญาซื้อเชื่อทองรูปพรรณในรูปสัญญาของบริษัท และได้ทำการตรวจสอบพบว่า บริษัทฯ ดังกล่าวไม่มีตัวตนจริง จึงทำการจับตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดี

พ.ต.ท.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผกก.สส.สภ.แหลมฉบัง กล่าวว่า การกระทำเช่นนี้ถือเป็นภัยอย่างมาก เป็นการเอาเปรียบผู้อื่น เสมือนทำนาบนหลังคน หากไม่มีเงินจ่ายอาจจะโดนทำร้ายร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ดังนั้น จึงต้องกวาดล้างให้หมดไป หากท่านใดที่ทราบเบาะแสพฤติกรรมแบบนี้ให้ติดต่อแจ้งความร้องทุกข์มายังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา