xs
xsm
sm
md
lg

รัฐสนธิกำลังบุกป่าเขาพนมศาสตร์ พบผู้มีอิทธิพลบุกรุกป่าปลูกยางพาราหลาย 100 ไร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าหน้าที่รัฐสุดทน เจออิทธิพลเถื่อนกร่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ยิงปืนอาก้า อาวุธปืนสั้นข่มขู่ และข่มขวัญ หลังถูกเจ้าหน้าที่บุกจับเลื่อยไม้บนภูเขา และเลื่อยยนต์ วันนี้จึงสนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบุกเขาพนมศาสตร์ ตรวจสอบพบผู้มีอิทธิพลบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำของชาวระยองหลายร้อยไร่เพื่อปลูกยางพาราจริง “สวญ.สภ.หนองกรับ” ลั่นจะดำเนินคดีถึงที่สุด 

วันนี้ (1 พ.ค.) พ.ต.ท.ไชยดิษฐ์ ปัญญาเหมือนสกุล สวญ.สภ.หนองกรับ จ.ระยอง พร้อมนายประสิทธิ์ คอกขุนทด ปลัดอำเภอบ้านค่าย นายสมชาย มีแสง ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์ชะแวะ นายภิญโญ จันทนาตาล หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าไม้ที่ระยอง 2 บ้านค่าย นายนเรศ แสงอรุณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย และเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดระยอง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ และอาสาสมัครรักษาป่าตำบลหนองบัว พร้อมอาวุธปืนครบมือ จำนวน 20 นาย ใช้รถโฟร์วีลลุยขึ้นเขาพนมศาสตร์ พื้นที่หมู่ 4 หมู่ 9 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย เขตติดต่อพื้นที่หมู่ 7 ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง หลังได้รับการร้องเรียนว่า มีการบุกรุกแผ้วทางป่าหลายร้อยไร่บนยอดเขาที่มีระดับความสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 480 เมตร ซึ่งการเดินทางเป็นไปด้วยความยาลำบาก ขึ้นภูเขาสูงชันระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงบริเวณยอดเขา พบว่า มีการแผ้วถางป่าปลูกต้นยางพาราหลายร้อยไร่จริง

นอกจากนี้ ยังพบมีการแผ้วถางป่าเพิ่มเติมเพื่อเตรียมปลูกยางพาราอีกเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งบางจุดพบร่องรอยการแผ้วถางโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง โดยใช้เลื่อยยนต์ตัดไม้ไปปลูกบ้านเป็นที่พักอาศัยที่มีอยู่นับ 10 หลัง รอบบริเวณพื้นที่บุกรุก ซึ่งจากการตรวจสอบสามารถยึดน้ำมันที่ใช้สำหรับเติมเลื่อยยนต์ได้ จำนวน 7 ถังๆ ละประมาณ 30 ลิตร ถังแก๊สขนาด 16 กิโลกรัม จำนวน 2 ถัง และเครื่องปั่นไฟอีก 2 เครื่อง

พ.ต.ท.ไชยดิษฐ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านในพื้นที่ได้ร้องเรียนว่า มีผู้มีอิทธิพลขึ้นไปแผ้วถางป่า โดยยึดเป็นของตัวเองเพื่อปลูกยางพารา โดยพื้นที่ดังกล่าวมีประมาณ 100 ไร่เศษ ที่ทางนิคมสหกรณ์ชะแวะ เป็นผู้ดูแล และกันเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารของ จ.ระยอง จึงได้นำกำลังขึ้นไปตรวจสอบ โดยเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา สามารถจับกุมคนงานชาวกัมพูชาได้ 2 คน พร้อมยึดอาวุธปืนแก๊ป 1 กระบอก เลื่อยยนต์ 1 เครื่อง แจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งดำเนินคดี แต่หลังจากนั้น 2 วัน มีผู้มีอิทธิพลที่อ้างตัวเป็นเจ้าของพื้นที่ใช้อาวุธปืนอาก้า อาวุธปืนสั้น ยิงข่มขู่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่รัฐ และชาวบ้านห้ามพูด และซัดทอดถึงตัว

แต่อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นหนาที่จะสามารถเอาผิด และดำเนินคดีทางอาญาต่อบุคคลดังกล่าวได้ โดยมีทั้งพยานบุคคล ภาพถ่าย และพยานหลักฐานที่พบหลังนำกำลังขึ้นมาตรวจสอบในวันนี้ด้วย ภายใน 7 วัน จะขออำนาจศาลออกหมายจับกุมผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งที่เป็นเจ้าของตัวจริงที่บุกรุกป่าดังกล่าว และใช้อำนาจของนิคมสหกรณ์ชะแวะ ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอาคารที่พักด้วย

พ.ต.ท.ไชยดิษฐ์ กล่าวต่อว่า มีรายงานด้วยว่า ผู้มีอิทธิพลดังกล่าวเป็นที่เกรงกลัวของชาวบ้านในพื้นที่ ไม่มีใครกล้ายุ่ง และมีรายงานจากสายข่าวด้วยว่า บนภูเขาแห่งนี้มีอาวุธปืนอาก้า ปืนยาวติดลำกล้อง ถ้ามีคนเข้าไปโดยไม่แจ้งจะโดนยิง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ใส่เสื้อเกราะ มีอาวุธปืนครบในการขึ้นไปครั้งนี้ และที่สำคัญ มีผู้ใหญ่ในพื้นที่ฝากไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับนายทุนอิทธิพลคนนี้ด้วย ซึ่งตนขอยืนว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด เนื่องจากถือเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม ทำลายทรัพยากรธรรมชาติของป่าไม้ ซึ่งถ้าหากมีอำนาจมืดสั่งหยุด ตนพร้อมที่ยื่นถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อไป

ด้านนายสมชาย มีแสง ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์ชะแวะ กล่าวว่า พื้นที่ป่าเขาพนมศาสตร์อยู่ในความดูแลของนิคมสหกรณ์ชะแวะ มีประมาณ 10,000 ไร่ เป็นพื้นที่ป่าที่อนุญาตให้ประชาชนทำกิน แต่พื้นที่ที่พบการบุกรุกจำนวนหลายร้อยไร่ ส่วนที่โดนบุกรุกแล้วกว่าหมื่นไร่ เป็นพื้นที่ที่นิคมสหกรณ์ชะแวะกันเป็นป่าต้นน้ำลำธาร กลับถูกนายทุนบุกรุกปลูกยางพารายึดที่ดินของรัฐเป็นของตัวเอง ทั้งนี้ กฎหมายของนิคมฯ เองไม่รุนแรง มีโทษเพียงแค่ปรับไม่เกิน 1,000 บาท จำคุก 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงจำเป็นต้องอาศัยกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ของป่าไม้ และทางอาญาของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจัดการถึงจะทำให้ผู้บุกรุกเข็ดหลาบ

ทั้งนี้ เบื้องต้นจะรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิด และให้ชดใช้ค่าเสียหายต่อผืนป่าต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น