หนองบัวลำภู - ชาวบ้านชายขอบจังหวัด วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ หลังพายุฤดูร้อนซัดกระหน่ำนานหลายวัน ยังไม่มีหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ ก่อนตัดพ้อลืมหมู่บ้านนี้แล้วหรือไร
วันนี้ (1 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.หนองบัวลำภู ว่านายฤชุพันธ์ ศรีภูวงค์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 15 บ้านศรีภูทอง ต.โนนสะอาด อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุจนบ้านเรือนได้รับความเสียหาย เข้าร้องเรียนว่า ช่วงบ่ายวันที่ 26 เมษายน เกิดพายุฤดูร้อนและลูกเห็บโหมกระหน่ำหมู่บ้านศรีภูทอง ส่งผลให้หลังคาบ้าน ฉางข้าว ปลิวว่อนไปกับพายุฝน ต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับบ้านเรือน เสาไฟหักโค่นเสียหาย ซึ่งล่วงเวลามาหลายวันแล้วแต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ชาวบ้านที่ไม่มีเงินซื้อสังกะสีต้องไร้ที่อาศัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ตำบล อำเภอ และจังหวัด ตัดขาดการช่วยเหลือแล้วหรือ
ทั้งนี้ บ้านศรีภูทองมีพื้นที่ติดต่อกับ จ.เลย และ จ.ขอนแก่น ห่างจากจังหวัดร่วม 100 กิโลเมตร และเป็นหมู่บ้านชายขอบ จึงได้ร้องขอให้สื่อมวลชนได้เสนอข่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลด้วย
ข่าวแจ้งว่า เมื่อไปตรวจสอบที่หมู่บ้านพบชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังนั่งปรับทุกข์กันอย่างหมดความหวัง เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นร่วม 40 ปีมาแล้ว พร้อมนำผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบความเสียหายภายในบ้านแต่ละหลัง โดยมีบ้านเรือนเสียหายเสียหายอย่างหนัก 3 หลัง เสียหายเล็กน้อยกว่า 10 หลัง
นายฤชุพันธ์ ศรีภูวงค์ กล่าวว่า ไม่มีหน่วยงานไหนโผล่หัวมาดูแลชาวบ้าน มีพียงผู้ใหญ่บ้านมาสอบถามถึงความเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น แต่ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ อำเภอ และจังหวัดเข้ามาตรวจสอบ หรือสอบถามเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายแต่ละหลัง จนต้องให้ญาติโทรศัพท์ไปที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ในรายการของผู้ว่าฯ มาแล้ว ถึงวันนี้น่าจะมีสังกะสีมามุงหลังคาบ้างแล้ว แต่กลับไม่มี ครอบครัวของตนต้องไปกู้เงินนอกระบบมาซื้อกระสีมุงหลังคา เพราะรอการช่วยเหลือไม่ไหว
นายอรรถสิทธิ์ ชาโท ผู้ใหญ่บ้านศรีภูทอง หมู่ 15 กล่าวว่า ได้รายงานให้เทศบาลตำบลโนนสะอาด และอำเภอทราบแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่เข้ามาตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่ายังไม่ได้รับรายงานความเสียหายจากพื้นที่ แต่พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือหากมีการรายงานความเสียหายเข้ามา เพราะตามระเบียบกรณีบ้านเรือนราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสามารถจ่ายชดเชยได้หลังละประมาณ 33,000 บาทอยู่แล้ว แต่ต้องรอรายงานจากพื้นที่ก่อนจึงจะให้ความช่วยเหลือได้