กาญจนบุรี - สาวใจเด็ดเมืองบ่อพลอย ที่ยิงหัวหนุ่มนักย่องเบาขู่ข่มขืนขณะสามีไม่อยู่บ้านดับ ได้เข้ามอบตัวสู้คดีต่อตำรวจ สภ.บ่อพลอยกลางดึก สารภาพถูกผู้ตายใช้ปืนปากกาจี้ข่มขืนจริง ก่อนฉวยโอกาสผู้ตายเผลอหยิบปืนปากกาจ่อยิงขมับตายก่อนหลบหนี
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (30 เม.ย.) พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (ผกก.สภ.) บ่อพลอย เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีนายกบ บุญมั่ง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 771 หมู่ 1 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี อาชีพรับจ้างทั่วไปถูก น.ส.สาวิตรี แก้วศรี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 591/14 หมู่ 1 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ใช้อาวุธปืนปากกาขนาด .22 ยิงเข้าที่บริเวณขมับขวากระสุนฝังในนอนเสียชีวิตที่หน้าบ้าน เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 27 เม.ย.56 ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้บอกแก่ญาติว่า ขอหลบไปตั้งหลักก่อนแล้วจะติดต่อขอมอบตัวในภายหลัง พร้อมทั้งฝากอาวุธปืนไว้เพื่อมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ล่าสุด เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 29 เม.ย.56 ที่ผ่านมา น.ส.สาวิตรี แก้วศรี ผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยหลังจากมอบตัวเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ โดยมีญาติเดินทางมาให้กำลังใจ และขอประกันตัว
พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ ผกก.สภ.บ่อพลอย เปิดเผยต่อว่า น.ส.สาวิตรี ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงนายกบ เสียชีวิตจริง ก่อนเกิดเหตุ สามีของ น.ส.สาวิตรี ซึ่งเป็นพนักงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขา อ.บ่อพลอย ออกไปเข้าเวร และจะกลับมาตอนดึก ผู้ต้องหาจึงเปิดประตูบ้านเพื่อรอสามี ขณะนอนรอได้เผลอหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าผู้ตายได้แอบเข้ามาในบ้านโดยใช้ปืนปากกาจี้แล้วบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง จากนั้น น.ส.สาวิตรี ผู้ต้องหาได้อาศัยจังหวะที่ผู้ตายเผลอ แอบหยิบปืนปากกาของผู้ตายได้ และขณะนายกบ แต่งตัวเสร็จกำลังจะเดินออกจากบ้านไป ผู้ต้องหาจึงฉวยโอกาสเดินตามไป แล้วตัดสินใจใช้ปืนปากกาจ่อยิงเข้าที่ขมับขวาของนายกบ จนล้มฟุบเสียชีวิตคาที่ หลังก่อเหตุ น.ส.สาวิตรี ได้ฝากอาวุธปืนไว้แก่ญาติเพื่อรอมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งบอกว่าขอหลบไปตั้งหลักก่อน และจะติดต่อขอมอบตัวในภายหลัง
จากคำให้การของ น.ส.สาวิตรี เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีน้ำหนักพอที่จะก่อเหตุ แต่อย่างไรก็ตาม ได้ส่งตัว น.ส.สาวิตรี ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบ่อพลอย เพื่อหาร่องรอยการข่มขืน และตรวจดีเอ็นเอควบคู่กันไปด้วย ส่วนอาวุธปืนของกลางได้ส่งไปตรวจหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อีกทางหนึ่งด้วย โดยหลังจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางญาติได้ยื่นขอประกันตัว แต่ทางพนักงานสอบสวนยังไม่อนุญาตให้ประกันตัวแต่อย่างใด ส่วนจะไปยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (30 เม.ย.) พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (ผกก.สภ.) บ่อพลอย เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีนายกบ บุญมั่ง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 771 หมู่ 1 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี อาชีพรับจ้างทั่วไปถูก น.ส.สาวิตรี แก้วศรี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 591/14 หมู่ 1 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ใช้อาวุธปืนปากกาขนาด .22 ยิงเข้าที่บริเวณขมับขวากระสุนฝังในนอนเสียชีวิตที่หน้าบ้าน เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 27 เม.ย.56 ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้บอกแก่ญาติว่า ขอหลบไปตั้งหลักก่อนแล้วจะติดต่อขอมอบตัวในภายหลัง พร้อมทั้งฝากอาวุธปืนไว้เพื่อมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ล่าสุด เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 29 เม.ย.56 ที่ผ่านมา น.ส.สาวิตรี แก้วศรี ผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยหลังจากมอบตัวเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ โดยมีญาติเดินทางมาให้กำลังใจ และขอประกันตัว
พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ ผกก.สภ.บ่อพลอย เปิดเผยต่อว่า น.ส.สาวิตรี ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงนายกบ เสียชีวิตจริง ก่อนเกิดเหตุ สามีของ น.ส.สาวิตรี ซึ่งเป็นพนักงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขา อ.บ่อพลอย ออกไปเข้าเวร และจะกลับมาตอนดึก ผู้ต้องหาจึงเปิดประตูบ้านเพื่อรอสามี ขณะนอนรอได้เผลอหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าผู้ตายได้แอบเข้ามาในบ้านโดยใช้ปืนปากกาจี้แล้วบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง จากนั้น น.ส.สาวิตรี ผู้ต้องหาได้อาศัยจังหวะที่ผู้ตายเผลอ แอบหยิบปืนปากกาของผู้ตายได้ และขณะนายกบ แต่งตัวเสร็จกำลังจะเดินออกจากบ้านไป ผู้ต้องหาจึงฉวยโอกาสเดินตามไป แล้วตัดสินใจใช้ปืนปากกาจ่อยิงเข้าที่ขมับขวาของนายกบ จนล้มฟุบเสียชีวิตคาที่ หลังก่อเหตุ น.ส.สาวิตรี ได้ฝากอาวุธปืนไว้แก่ญาติเพื่อรอมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งบอกว่าขอหลบไปตั้งหลักก่อน และจะติดต่อขอมอบตัวในภายหลัง
จากคำให้การของ น.ส.สาวิตรี เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีน้ำหนักพอที่จะก่อเหตุ แต่อย่างไรก็ตาม ได้ส่งตัว น.ส.สาวิตรี ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบ่อพลอย เพื่อหาร่องรอยการข่มขืน และตรวจดีเอ็นเอควบคู่กันไปด้วย ส่วนอาวุธปืนของกลางได้ส่งไปตรวจหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อีกทางหนึ่งด้วย โดยหลังจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางญาติได้ยื่นขอประกันตัว แต่ทางพนักงานสอบสวนยังไม่อนุญาตให้ประกันตัวแต่อย่างใด ส่วนจะไปยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
