เชียงราย - ปัญหาภัยแล้งยังคงคุกคามพื้นที่การเกษตรนอกเขตชลประทานเมืองพ่อขุนฯ ไม่หยุด ล่าสุดแม้แต่ “เวียงหนองล่ม” หนองน้ำขนาดใหญ่ในตำนานยังแห้ง จนทุ่งเลี้ยงสัตว์ริมหนองหดหาย
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า ขณะนี้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ จ.เชียงราย ยังคงส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตร โดยเฉพาะที่อยู่นอกเขตชลประทาน รวมทั้งแม่น้ำสายสำคัญต่างๆ เหือดแห้งลงจนต้องมีการขุดลอก ล่าสุดพบว่า แหล่งน้ำธรรมชาติแหล่งสำคัญที่ชาวบ้านใช้สำหรับการเลี้ยงสัตว์ และหาปลาคือ เวียงหนองหล่ม บ้านห้วยน้ำราก ม.4 ม.5 และ ม.9 ต.จันจว้า อ.แม่จัน ก็เริ่มเหือดแห้งลงเช่นกัน
โดยหนองน้ำขนาดใหญ่แห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 15,000 ไร่ และเป็นพื้นที่โบราณสถาน ได้แห้งลงกว่าช่วงปกติโดยเฉพาะจุดที่ชาวบ้านใช้สำหรับเลี้ยงสัตว์ประเภทโค กระบือ เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ รวมทั้งไม่มีน้ำเพียงพอที่จะใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรได้เหมือนเดิม
นายศรีวรรณ ภักดี ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.จันจว้า กล่าวว่า ปกติหนองน้ำแห่งนี้ไม่เคยแห้งขอด แต่ปีนี้ฝนทิ้งช่วงมานานทำให้ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะนาข้าวยืนต้นตาย สัตว์เลี้ยงอย่างโคและกระบือนับพันตัวในหมู่บ้านขาดแคลนหญ้า-น้ำ เกษตรกรหลายรายทยอยขายโคและกระบือในราคาถูกเพื่อความอยู่รอดแล้ว
ด้านนายณรงค์ อินโส รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เชียงราย กล่าวว่า เชียงรายได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัตแล้งทั้ง 18 อำเภอ เกือบครบ 3 เดือนแล้วจึงได้แจ้งให้แต่ละอำเภอสรุปความเสียหายเข้ามา ซึ่งพบว่ามีพื้นที่ประสบภัยแล้ง 113 ตำบล จำนวน 1,075 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่จะขาดแคลนน้ำเพื่อทำการเกษตร เนื่องจากประชาชนมีการปลูกข้าวนาปรังกันมาก เพราะราคาผลผลิตสูง โดยเฉพาะพื้นที่ อ.แม่จัน พบว่าอ่างเก็บน้ำเหลือเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น หากในเดือน พ.ค. 56 ฝนไม่ตกลงมา หรือตกลงมาในปริมาณที่น้อยก็จะทำให้ปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคยาวนานขึ้นไปอีก