ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมันจากคลังน้ำมันในจังหวัดชลบุรีเพื่อไปส่งยังภาคอีสาน พลิกคว่ำบริเวณถนนบ้านหนองหล่ม ต.หนองแวง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เป็นเหตุให้น้ำมันกว่า 3 หมื่นลิตร ไหลทะลักสู่ถนน และคลองน้ำในหมู่บ้าน ชาวบ้านพากันตื่นหนีตายหวั่นเกิดไฟไหม้ พร้อมวอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบน้ำในคลองหวั่นกระทบต่อการบริโภค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (26 เม.ย.) ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่บริเวณริมถนนบ้านหนองหล่ม ต.หนองแวง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ได้พากันแตกตื่นอพยพออกจากบ้าน หลังเกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมัน หมายเลขทะเบียน 70-0776 อุบลราชธานี เสียหลักพลิกคว่ำ จนทำให้น้ำมันดีเซล จำนวน 37,000 ลิตร ที่บรรทุกมาจากคลังน้ำมันใน จ.ชลบุรี ทะลักออกมา และเกรงว่าจะเกิดไฟลุกไหม้ พร้อมแจ้งหน่วยกู้ภัยจุดสกัดบ้านทรัพย์นกแก้วให้เข้าช่วยเหลือ และงัดร่างนายธนวัฒน์ อินจำปา คนขับรถน้ำมันออกจากตัวรถ และนำตัวส่งโรงพยาบาลวัฒนานคร
จากการตรวจสอบพบว่า นายธนวัฒน์ มีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ และตามลำตัว และให้ข้อมูลว่า ได้ขับรถบรรทุกน้ำมันออกมาจากคลังน้ำมันในจังหวัดชลบุรี เพื่อนำไปส่งยังภาคอีสาน แต่ขณะวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งรถได้เสียหลักพลิกคว่ำ
ขณะที่ชาวบ้านต่างพากันหวั่นว่าจะเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม เนื่องจากน้ำมันได้ไหลทะลักลงสู่คลองที่ชาวบ้านใช้ในการบริโภค พร้อมวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (26 เม.ย.) ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่บริเวณริมถนนบ้านหนองหล่ม ต.หนองแวง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ได้พากันแตกตื่นอพยพออกจากบ้าน หลังเกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมัน หมายเลขทะเบียน 70-0776 อุบลราชธานี เสียหลักพลิกคว่ำ จนทำให้น้ำมันดีเซล จำนวน 37,000 ลิตร ที่บรรทุกมาจากคลังน้ำมันใน จ.ชลบุรี ทะลักออกมา และเกรงว่าจะเกิดไฟลุกไหม้ พร้อมแจ้งหน่วยกู้ภัยจุดสกัดบ้านทรัพย์นกแก้วให้เข้าช่วยเหลือ และงัดร่างนายธนวัฒน์ อินจำปา คนขับรถน้ำมันออกจากตัวรถ และนำตัวส่งโรงพยาบาลวัฒนานคร
จากการตรวจสอบพบว่า นายธนวัฒน์ มีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ และตามลำตัว และให้ข้อมูลว่า ได้ขับรถบรรทุกน้ำมันออกมาจากคลังน้ำมันในจังหวัดชลบุรี เพื่อนำไปส่งยังภาคอีสาน แต่ขณะวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งรถได้เสียหลักพลิกคว่ำ
ขณะที่ชาวบ้านต่างพากันหวั่นว่าจะเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม เนื่องจากน้ำมันได้ไหลทะลักลงสู่คลองที่ชาวบ้านใช้ในการบริโภค พร้อมวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ
