ศูนย์ข่าวศรีราชา-ตร.เมืองชลบุรี จับ 34 พระเขมรลาสิกขาต่อเจ้าคณะอำเภอเมืองชลบุรี หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน เดินทางมากางเต็นท์ปักหลักในสุสาน ก่อความรำคาญออกบิณฑบาตเรี่ยไรเงินชาวบ้าน
หลังจากที่ชาวบ้านร้องเรียนไปที่ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ว่า มีบุคคลแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ออกเรี่ยไรเงินสร้างความรำคาญให้แก่ชาวบ้านในเขตอำเภอเมืองชลบุรีเป็นจำนวนมาก จึงให้ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี ดำเนินการกวาดล้างจับกุมอย่างเร่งด่วน
จึงกระทั่งเวลา 17.00 น. วันนี้ (24 เม.ย.) ร.ต.อ.สมคิด ยานะพันธ์ รอง สวป.สภ.เมืองชลบุรี จึงนำกำลังตำรวจกว่า 10 นาย เข้าไปในสุสานเม่งหุ้ย ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งพักพิงของเหล่าบุคคลที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบลักษณะเป็นค่ายพักแรม มีการกางเต็นท์เป็นที่อยู่อาศัย มีเครื่องครัวในการหุงต้มอาหารคล้ายเป็นชุมชนหนึ่ง พบบุคคลแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ จำนวน 34 คน จึงทำการตรวจสอบพบเป็นบุคคลต่างชาติชาวกัมพูชา มีพาสปอร์ตจากประเทศกัมพูชา ลักษณะท่องเที่ยว และใบสุทธิคือ ใบอนุญาตบวชเป็นพระสงฆ์ของประเทศกัมพูชาครบทุกคน
จึงควบคุมตัวไปที่วัดนอก ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อให้พระครูอุดมธรรมรส เจ้าคณะอำเภอเมืองชลบุรี พระมหาสมพงษ์ รองเจ้าคณะอำเภอ แห่งวัดตาลล้อม และพระครูโกวิทสัตตธรรม พระวิญญาธิการ (พระตำรวจ) แห่งวัดกลาง ทำการตรวจสอบ พบว่า พระเหล่านี้ผิดวินัยสงฆ์คือ ไม่มีวัดที่อยู่แน่นอน และสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านด้วยการออกบิณฑบาตเรี่ยไรเงิน จึงทำพิธีลาสิกขาบท พร้อมยึดใบสุทธิไว้ พร้อมทำการผลักดันออกนอกประเทศ
บุคคลเหล่านี้รับสารภาพว่า บวชเป็นพระอยู่ที่ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา แต่ยากจนไม่มีคนมาใส่บาตร จึงชักชวนกันไปทำพาสปอร์ต และก็เดินทางมาปักหลักที่นี่เพื่อบิณฑบาต และจะกลับประเทศทุก 3 เดือน เพื่อไปต่อพาสปอร์ต และก็จะเดินทางกลับเข้ามาใหม่
ส่วนที่ชาวบ้านร้องเรียน เนื่องจากพระเหล่านี้จะออกบิณฑบาตกันทั้งวัน โดยไม่รับข้าวปลาอาหารจะรับแต่เงินอย่างเดียว และก็อยู่กันแบบเป็นชุมชนไม่มีวัด ไม่มีการสวดมนต์ มาปักหลักเพื่อขอเงินอย่างเดียว เมื่อได้เงินไปก็จะส่งกลับประเทศ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก
