เพชรบุรี - กระบะขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่าเสียหลักพลิกคว่ำพุ่งชนบ้านเรือนประชาชน บริเวณหมู่ 3 ตำบลหนองปรง อำเภอเขาย้อย เพชรบุรี เจ็บเกือบ 20 คน
เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้ (23 เม.ย.) ร.ต.ท.อินทร์ศร พรมหอม พนักงานสอบสวน สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีรถยนต์กระบะเสียหลักพลิกคว่ำพุ่งชนบ้านเรือนประชาชน บริเวณพื้นที่หมู่ 3 ต.หนองปรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ฝั่งขาล่องใต้ ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 20 คน
จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 49/7 หมู่ 3 ต.หนองปรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี พบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันนาวาร่า สีขาว ตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน บร 2950 ราชบุรี อยู่ในสภาพหงายท้องชนกับเสาหน้าบ้านที่เกิดเหตุ และผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ที่มีทั้งเด็กเล็ก และหญิง ชาย ที่โดยสารมากับรถคันดังกล่าว จึงเร่งประสานรถกู้ชีพโรงพยาบาลเขาย้อย รถกู้ชีพโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเพชรบุรี และรถกู้ภัยสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี สนับสนุนรับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเขาย้อย จำนวน 9 ราย และโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเพชรบุรี จำนวน 8 ราย รวมผู้บาดเจ็บทั้งหมด 17 ราย โดยทั้งหมดเป็นแรงงานสัญชาติพม่า
จากการสอบถาม นายกาน อายุ 38 ปี สัญชาติพม่า ซึ่งเป็นคนขับทราบว่า ทั้งหมดเป็นชาวพม่าที่มีบัตรถูกต้องตามกฎหมายทุกราย และเป็นแรงงานกีดยางพารา และเดินทางออกมาจาก อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี รวม 29 คน เพื่อมุ่งหน้าสู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากตนได้พาเพื่อนชาวพม่าที่เป็นแรงงานกรีดยางเดินทางกลับบ้านเพื่อไปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมา และกำลังจะเดินทางกลับอำเภอหาดใหญ่ แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีรถบรรทุก 10 ล้อขับปาดหน้าอย่างกระชั้นชิดทำให้รถเสียหลักพุ่งชนขอบปูนริมทางจนรถพลิกคว่ำ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว
ด้านนายชรินทร์ อินทวัน อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านบอกว่า ขณะนอนหลับอยู่ในบ้านได้ยินเสียงดังโครมครามบริเวณหน้าบ้านจึงได้ตื่นขึ้นมาดู ซึ่งพบว่ามีรถยนต์กระบะพลิกคว่ำมาชนกับเสาหน้าบ้านของตนที่ห่างจากตัวบ้านเพียง 3 เมตรเท่านั้น และโชคดีที่รถคันดังกล่าวไม่ได้พุ่งชนเข้าไปในบ้าน และพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากที่มีทั้งเด็กเล็ก และหญิงชายที่ส่งเสียงร้องให้ช่วยเหลือจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยเหลือดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายกาน คนขับรถไว้สอบปากคำ และจะตรวจสอบแรงงานชาวพม่าทั้ง 29 คนว่ามีเอกสารหลักฐานคนเข้าเมืองอย่างถูกต้องหรือไม่หากคนใดไม่มีหลักฐานก็จะผลักดันกลับสู่ประเทศต่อไป
