ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สรุปผลอุบัติเหตุสงกรานต์เชียงใหม่ จำนวนอุบัติเหตุ-ผู้บาดเจ็บสูงที่สุดของประเทศ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตอยู่อันดับ 9 ส่วน 4 อำเภอ “แม่แจ่ม-แม่แตง-แม่ออน-กัลยานิวัฒนา” ไร้อุบัติเหตุ-คนเจ็บคนตาย ด้านรอง ผวจ.เชียงใหม่แนะทุกอำเภอนำผลไปวิเคราะห์-สรุปเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ปีต่อๆ ไป
วันนี้ (18 เม.ย. ) นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2556 ณ ห้องประชุม POC ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ร่วมทั้งมีการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ไปยังทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่
ในการประชุมดังกล่าวได้มีการสรุปผลสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งวันที่ 11-17 เม.ย. โดยจังหวัดเชียงใหม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นรวมทั้งสิ้น 104 ครั้ง สูงกว่าสถิติในปี 2555 จำนวน 17 ครั้ง อำเภอที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากที่สุดคืออำเภอหางดง รวม 9 ครั้ง ขณะที่วันที่ 13 เม.ย. เป็นวันที่มีสถิติการกเดอุบัติเหตุสูงสุด รวม 21 ครั้ง
ด้านจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดเชียงใหม่มีทั้งสิ้น 110 คน เป็นชาย 85 คนและหญิง 25 คน สูงกว่าสถิติในปี 2555 จำนวน 15 คน โดยอำเภอสันกำแพงเป็นอำเภอที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสูงสุด จำนวน 10 คน
ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตของจังหวัดเชียงใหม่ มีทั้งสิ้น 8 คน เป็นชาย 7 คนและหญิง 12 คน โดยอำเภอที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคืออำเภอจอมทอง อำเภอฝาง และอำเภอฮอด อำเภอละ 2 คน
จากสถิติดังกล่าว ส่งผลให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีจำนวนอุบัติเหตุและจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในลำดับที่ 9 ของประเทศ
อย่างไรก็ตาม มี 4 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น รวมทั้งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบด้วย อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ออน และอำเภอกัลยานิวัฒนา
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่คือการเมาสุรา จำนวน 55 ครั้ง ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือจักรยานยนต์ จำนวน 89 ครั้ง ส่วนการเรียกตรวจตามมาตรการ 3ม 2ข 1ร ในจังหวัดเชียงใหม่มีการเรียกตรวจรวมทั้งสิ้น 36,138 คัน พบการกระทำผิดและดำเนินคดีจำนวน 10,062 คัน โดยการไม่สวมหมวกนิรภัยเป็นเรื่องที่มีการกระทำผิดมากที่สุด
ทั้งนี้ นายอดิศรได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในปีนี้เป็นปีแรกที่ได้ดำเนินการโดยไม่มีการตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลขเอาไว้ ซึ่งผลที่ออกมาก็ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง นั่นคือการที่จำนวนผู้เสียชีวิตไม่สูงติดอันดับต้นๆ เหมือนเช่นหลายๆ ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จำนวนอุบัติเหตุและผู้ได้รับบาดเจ็บที่สูงนั้นก็ถือเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันสรุปบทเรียน และเตรียมความพร้อมเพื่อปฏิบัติงานในปีต่อๆ ไป
นายอดิศรระบุว่า จากสถิติพบว่าช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือช่วงเวลาตั้งแต่ 12.00-00.00 น. ซึ่งในปีต่อๆ ไปอาจจะจะต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมดูแลในช่วงเวลาดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น ขณะที่การตั้งด่านตรวจนั้นพบว่าสามารถช่วยลดอุบัติเหตุได้ในหลายจุด โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ซึ่งเป็นจุดที่มียานพาหนะสัญจรผ่านเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการตั้งด่านตรวจและความถี่ในการตรวจของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
สำหรับ ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ขอให้ทุกอำเภอได้นำไปวิเคราะห์และสรุปผลเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานในปีอื่นๆ ต่อไป