จันทบุรี - พายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำสวนผลไม้ล้มหักโค่นฉีกขาดของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเสียหายกว่า 100 ไร่ บ้านเรือนกว่า 10 หลังคาเรือน ถูกพายุพัดกระเบื้องแตก ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งเบญจา ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือ
วันนี้ (14 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางณัฐญา แสงทอง อายุ 32 ปี เกษตรกรชาวสวน หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ว่า มีพายุฤดูร้อนพัดสวนทุเรียน สวนเงาะ และสวนยางพาราล้มหักโค่นฉีกขาด และถอนรากถอนโคนเสียหายเป็นวงกว้าง ขอให้ผู้สื่อข่าวได้ทำข่าวช่วยเหลือเกษตรกรด้วย
นางณัฐญา แสงทอง อายุ 32 ปี เกษตรกรชาวสวน อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าพื้นที่ไปดูความเสียหายพบต้นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง พันธุ์ชะนี อายุ 20-30 ปี ต้นเงาะ และยางพารา ถูกพายุฤดูร้อนพัดล้มหักโค่น ฉีกขาด ถอนรากถอนโคน และลูกร่วงหล่นเสียหายกว่า 100 ไร่ หรือประมาณ 100 ตัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท ปัจจุบัน ทุเรียนพันธุ์หมอนทองราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท และทุเรียนพันธุ์ชะนี ราคาตกกิโลกรัมละ 30-40 บาท ซึ่งเกษตรกรจะสามารถเกี่ยวผลผลิตขายได้ใน 2 สัปดาห์ข้างหน้าแล้ว แต่ต้องมาถูกพายุฤดูร้อนพัดเสียหายเสียก่อน
นอกจากนี้ พื้นที่หมู่ที่ 1 และพื้นที่ใกล้เคียง ตำบลทุ่งเบญจา ตำบลสองพี่น้อง และตำบลหนองคล้า อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ยังมีบ้านเรือนของชาวบ้าน จำนวน 10 หลังคาเรือน ถูกพายุฤดูร้อนพัดหลังคากระเบื้องปลิวหายไป และแตกเสียหายเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้น ทางองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งเบญจา ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในเบื้องต้นแล้ว และพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งได้มีการรายงานให้ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้รับทราบแล้ว
นางณัฐญา แสงทอง และนายอุทัย วิสุทธิ์วงษ์ เกษตรกรชาวสวนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อนที่พัดสวนทุเรียน สวนเงาะ และสวนยางพาราได้รับความเสียหาย กล่าวว่า พายุได้พัดมาตั้งแต่เช้ามืด มีลมแรง และได้หอบเอาสวนทุเรียนล้มหักโค่น ฉีกขาดถอนรากถอนโคน และลูกร่วงหล่นเสียหายเป็นจำนวนมาก พายุดังกล่าวได้มีลูกเห็บตกลงมาด้วยตนเองไม่เคยเห็นมาก่อน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือด้วยเพราะตนเองเดือดร้อนมาก