ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากพายุ พร้อมประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินวาตภัยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเกิดเหตุพายุลมแรงที่เกิดขึ้นในช่วงคืนที่ผ่านมาว่า ในวันนี้ (13 เม.ย.) นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ ประกอบความดี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้ลงพื้นที่หมู่ 1 ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เพื่อสำรวจความเสียหาย
ทั้งนี้ พบว่ามีบ้านเรือนของชาวบ้านเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน โดยบ้านของ นางศุภภาวรรณ บุญเถื่อน อายุ 34 ปี และบ้านของนางไฟเราะ ตั๋นบี้ อายุ 56 ปี นายบุญมั่น ตั๋นบี้ อายุ 60 ปี ถูกพายุพัดหลังคาบ้านได้รับความเสียหายหนัก
นอกจากนี้ ที่วัดเขาแหลมสิงห์ ยังพบว่าศาลาการเปรียญได้พังถล่มจากแรงลม ส่วนหลังคาโบสถ์ และกุฏิวัดพบกระเบื้องปลิวหายไป ส่วนเต็นท์จัดงานสงกรานต์กว่า 10 หลังถูกแรงลมพัดหักโค่น
พร้อมกันนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังรายงานว่า มีบ้านเรือนของชาวบ้าน สวนผลไม้ได้รับความเสียหายอีกเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดจันทบุรี อำเภอ เกษตรจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจพื้นที่เสียหายอย่างเร่งด่วน และรายงานให้ทางจังหวัดทราบเพื่อจัดงบฉุกเฉินช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน ได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินวาตภัยแล้ว
