ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ป.ป.ส.-ตำรวจภาค 5 บุกบ้าน “นิตยา” ผู้ต้องหาคดีร่วมฆ่าสามีอดีตนักค้ายา พร้อมยึดทรัพย์ทั้งบ้านหรู ที่ดิน และโครงการบ้านจัดสรรรวม 575 ล้าน เผยมีส่วนร่วมช่วยสามีฟอกเงิน แต่ภายหลังโดนสามีทำร้าย-ขู่ฆ่า เลยชิงจ้างคนฆ่าก่อน ป.ป.ส.แจงเป็นเครือข่ายค้ายารายใหญ่ติด 1 ใน 5 ของประเทศ คาดยังมีทรัพย์สินอีก เตรียมตามสืบต่อ
คลิกเพื่อชมคลิป :
วันนี้ (11 เม.ย.) นายณรงค์ รัตนานุกุล ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติ (ป.ป.ส.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 และตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 เดินทางไปยังโครงการหมู่บ้านจัดสรรจัสมิน อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อทำการยึดและอายัดทรัพย์สินของ น.ส.นิตยา จิรญานิธิกุล ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 จำนวนกว่า 500 ล้านบาท หลังสืบทราบว่า น.ส.นิตยาและเครือข่าย มีความเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด และเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในภาคเหนือ
โดยทรัพย์สินที่ทำการตรวจยึดและอายัดในครั้งนี้ ประกอบด้วย บ้านเลขที่ 99/9 และบ้านเลขที่ 135 ในโครงการหมู่บ้านจัสมิน โครงการจัดสรรหมู่บ้านจัสมิน ซึ่งประกอบด้วยอาคารสำนักงาน สโมสร และที่ดินเปล่า เนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ นอกจากนี้ยังมีที่ดินในอ.แม่แตง และเงินฝากธนาคารอีก 12 บัญชี รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 575 ล้านบาท
การตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินของ น.ส.นิตยา สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า น.ส.นิตยาและเครือข่ายมีความเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติด ร่วมกับนายสมชาย เถอะจา สามีของ น.ส.นิตยา และได้นำเงินที่ได้จากการจำหน่ายยาเสพติด มาลงทุนทำธุรกิจบ้านจัดสรรเพื่อฟอกเงิน จึงได้ติดตามตรวจสอบ และทำการยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเอาไว้
ทั้งนี้ ปัจจุบัน น.ส.นิตยาตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่านายสมชาย เถอะจา ที่ริมถนนเลียบคลองชลประทาน หมู่ 12 ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 ตุลาตม 2555 โดย น.ส.นิตยาเป็นผู้จ้างวานผู้ต้องหาอีก 3 คนร่วมกันฆ่านายสมชาย ซึ่งพ้นโทษจำคุกในคดียาเสพติดเมื่อเดือนสิงหาคม 2555 อ้างว่าสาเหตุที่ร่วมกันฆ่า เนื่องจากนายสมชายหวาดระแวงว่า น.ส.นิตยาเป็นสายให้กับตำรวจ โดยจะข่มขู่และลงมือทำร้ายร่างกายหลายครั้ง รวมทั้งยังพยายามทวงถามเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดก่อนที่จะต้องโทษ ทำให้ น.ส.นิตยาตัดสินใจลงมือจ้างานคนสังหารนายสมชาย แต่ภายหลังถูกจับกุมตัวมาดำเนินคดี
นายณรงค์ รัตนานุกุล ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า การยึดทรัพย์ครั้งนี้เป็นการขยายผลจากคดีฆาตกรรมนายสมชาย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า น.ส.นิตยามีส่วนเกี่ยวข้องกับนางสมชายในการค้ายาเสพติด รวมทั้งมีโยกย้ายทรัพย์สินมาไว้ที่ น.ส.นิตยา จึงได้ทำการตรวจสอบจนมีหลักฐานแน่ชัด ก่อนที่จะทำการตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่ากว่า 575 ล้านบาท
จากทรัพย์สินที่ยึดได้จำนวนมาก บวกกับเครือข่ายการค้ายาเสพติดที่ น.ส.นิตยามีส่วนร่วม อาจถือได้ว่าเครือข่ายนี้อยู่ในระดับ 1 ใน 5 อันดับแรกของประเทศก็ได้ โดยทรัพย์สินที่ตรวจยึดเชื่อว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่ง และน่าจะมีการโยกย้ายไปไว้ยังบุคคลหรือแหล่งอื่น รวมทั้งมีผู้ที่เกี่ยวข้องคนอื่นอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและ ป.ป.ส.จะทำการสืบสวนติดตามหาเครือข่ายที่ยังเหลืออยู่ รวมทั้งจะทำการยึดทรัพย์ตามทันที หากพบว่ามีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องหรือมีที่มาจากการการค้ายาเสพติดของเครือข่ายดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 กล่าวว่า หลังจากตำรวจสามารถจับกุมตัว น.ส.นิตยาในคดีร่วมกันฆ่านายสมชาย ซึ่งเป็นสามีได้แล้ว จากการสืบสวนพบว่า น.ส.นิตยามีความเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดของนายสมชาย ซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่ เกี่ยวข้องกับกลุ่มชาวไทยภูเขานามสกุล “เล่ายี่ปา” ที่เคลื่อนไหวค้าขายยาเสพติดใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยมีส่วนในการฟอกเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด แต่เมื่อครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายสมชายนั้นยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงความผิดไปถึง น.ส.นิตยา
ต่อมาเมื่อนายสมชายพ้นโทษและถูกสังหาร เจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่า น.ส.นิตยามีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะผู้จ้างวานและร่วมกันฆ่าสามี ขณะเดียวกันยังนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดมาลงทุนทำโครงการหมู่บ้านจัดสรรเพื่ออำพรางที่มา จึงได้ติดตามตรวจสอบ และรวบรวมหลักฐานอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะทำการเข้ายึดทรัพย์สินทั้งหมดในที่สุด