พระนครศรีอยุธยา/นครราชสีมา - ประชาชนและนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทางออกต่างจังหวัดทั้งเหนือ-อีสาน เตรียมฉลองเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลการจราจรบางจุดเริ่มมีรถหนาแน่น ตำรวจทางหลวง แนะการเดินทาง และเส้นทางเลี่ยงช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมขอให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
วันนี้ (11 เม.ย.) ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางออกต่างจังหวัดเพื่อร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 กันแล้ว ส่งผลให้สภาพการจราจรบนถนนสายหลัก และสายรองในช่วงเช้าถึงบ่ายเริ่มมีปริมาณรถมากขึ้น แต่ยังสามารถวิ่งได้ตามปกติ โดยคาดว่าในช่วงเย็นปริมาณรถอาจจะเพิ่มขึ้นจนไปถึงในช่วงค่ำ ตลอดจนถึงเช้าของวันพรุ่งนี้ (12 เม.ย.) โดยเฉพาะเส้นทางที่มุ่งหน้าขึ้นภาคเหนือ และภาคอีสาน
ทั้งนี้ พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) ได้แนะนำเส้นทางสำหรับประชาชนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยคาดว่าหลายเส้นทางการจราจรจะติดขัด ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้ (11 เม.ย.) เช่น บริเวณถนนพหลโยธิน ช่วงอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างสะพานข้ามคลองระพีพัฒน์ โดยกรมทางหลวงปิดช่องทางคู่ขนานทั้งสองฝั่งทั้งไปและกลับ เพื่อปรับปรุงพื้นถนน จึงแนะนำให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ก่อนถึงคลองระพีพัฒน์ ประมาณ กิโลเมตรที่ 83 จะมีทางเบี่ยงซ้าย ไปยังถนนพหลโยธินสายเก่าแทน ซึ่งสามารถใช้เดินทางไปสู่ภาคเหนือได้ เพราะถนนกว้าง รถน้อย ใช้ความเร็วได้ ระยะทางใกล้เคียงกัน หากจะเดินทางออกไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แนะนำให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304 กบินทร์-ปักธงชัย และต่อไปยังถนนมิตรภาพ เส้นทางนี้จะสะดวกกว่า แต่หากการจราจรติดขัดมากจะมีการเปิดช่องทางพิเศษเพื่อระบายรถจนกว่าการจราจรจะคลี่คลาย
ส่วนจุดที่มีปัญหา คือ เส้นทางหลวงหมายเลข 318 ดอยสะเก็ด-เชียงใหม่ ซึ่งเป็นทางโค้งหักศอกทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อย เนื่องจากประชาชนอาจไม่ชินเส้นทาง และไม่ปฏิบัติตามป้ายเตือนรถวิ่งมาด้วยความเร็วเต็มที่ทำให้แหกโค้ง และตกเหวเป็นจำนวนมาก จึงได้แก้ไขด้วยการติดป้ายเตือนเพิ่มขึ้น และติดตั้งตู้ตำรวจด้วย รวมทั้งช่วงถนนมิตรภาพขาล่อง ระหว่างอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ไปอำเภอทับกวาง จังหวัดสระบุรี ที่รถมักจะใช้ความเร็วสูง ทั้งที่มีป้ายเตือนว่าเกิดอุบัติเหตุบ่อย จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามป้ายเตือน และกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
ด้าน พ.ต.ต.ปริญญา กลิ่นเกษร สว.ส.ทล.กก.1 บก.1 ทล. (อยุธยา) เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2556 เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีวันหยุดราชการต่อเนื่องหลายวัน ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเยี่ยมญาติ ท่องเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และมีการเฉลิมฉลองในเทศกาลดังกล่าว ส่งผลให้การจราจรเพิ่มขึ้นกว่าปกติเกิดปัญหาการจราจรติดขันเป็นบางช่วงๆ บนถนนทางหลวงทั้งสายหลัก และสายรองอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
พ.ต.ต.ปริญญา กล่าวต่อว่า ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง จึงได้สั่งการให้ออกแผนรองรับ มอบหมายให้ข้าราชการตำรวจแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย จึงได้ดำเนินการดังนี้
1.การจัดการจราจร 1.1 กรณีการจราจรติดขัดใช้เส้นทางเลี่ยงดังนี้ มุ่งสู่สายเหนือ เส้นทางที่ 1 - ออกจาก กทม.หรือมาจากภาคใต้ ใช้ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก)-ผ่าน อ.บางใหญ่-อ.บางบัวทอง ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี-ผ่าน อ.มโนรมย์-จว. ชัยนาท-ถนนเอเชีย เส้นทางที่ 2 ออกจาก กทม.ใช้ทางด่วนลงด่วนบางปะอิน ลงถนนกาญจนาภิเษกมุ่งสู่ อ.บางปะอิน ซ้ายถนนปทุมธานี-บางปะหัน เข้าถนนเอเชีย
มุ่งสู่ภาคอีสาน เส้นทางที่ 1 ออกจาก กทม. ใช้ถนนวิภาวดีรังสิต-ถนนพหลโยธิน ผ่านตลาดรังสิต ใช้ถนนรังสิต-นครนายก ซ้ายถนนไป อ.บ้านนา ซ้ายถนนสุวรรณศร ขวาถนนบ้านนา-แก่งคอย เข้าถนนมิตรภาพ เส้นทางที่ 2 ออกจาก กทม. ใช้ถนนมอเตอร์เวย์ (วงแหวนตะวันออก) ลงต่างระดับคลองห้า ใช้ถนนรังสิต-นครนายก ซ้ายถนนไป อ.บ้านนา ซ้ายถนนสุวรรณศร ขวาถนนบ้านนา-แก่งคอย เข้าถนนมิตรภาพ 1.2 การเปิดช่องทางพิเศษ การจราจรติดติดขัดอย่างเช่นทุกๆ เทศกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะถนนพหลโยธินตั้งตลาดรังสิต อ.หนองแค มี จะทำการเปิด จำนวน 3 จุด จุดที่ 1 กม.47+850 บริเวณจุดใกล้เคียงกับที่ทำการของสถานีตำรวจทางหลวง (อยุธยา) จุดที่ 2 กม.51+500 บริเวณต่างระดับบางปะอิน จุดที่ 3 กม.54+500 จุดใกล้เคียงร้านอาหารลุงนวย
2.การบริการ มีหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวง จำนวน 4 หน่วย หน่วยบริการตำรวจทางหลวงเอเชีย ตั้งอยู่ กม.18 ถนนเอเชีย หน่วยบริการตำรวจทางหลวงวังน้อย ตั้งอยู่ กม.73 ถนนพหลโยธิน หน่วยบริการตำรวจทางหลวงบางปะอิน กม.20 ถนนปทุมธานี-บางปะหัน หน่วยบริการตำรวจทางหลวงนพวงศ์ กม.41 ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี
โดยเฉพาะที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงวังน้อย สถานที่ตั้งอยู่ด้านขา ออกมุ่งสู่ภาคอีสาน ได้จัดกิจกรรมโครงการต่างๆ ดังเช่นทุกๆ เทศกาลที่ผ่านมา โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมกิจกรรมกันอย่างมากมาย ดังนี้ แจกผ้ายันต์กันภัยของ “หลวงพ่อคูณ” ให้ประชาชนผู้ใช้ทางขับขี่อย่างปลอดภัย ตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ “สุสานความประมาท” โดยนำซากรถมาตั้งแสดงบนนั่งร้าน มีป้ายข้อความเตือนภัย บริการหนวดแผนโบราณ “ฟรี” แจกแผ่นพับ “พกไว้ไม่หลง รถเสีย ถามเส้นทาง ทั่วประเทศ” คำขวัญ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ “ตำรวจทางหลวงใส่ใจทุกชีวิต เป็นมิตรทุกเส้นทาง” บริการน้ำดื่ม กาแฟ ผ้าเย็น ห้องนอนพักผ่อน ห้องน้ำที่สะอาด
ส่วนที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรบนถนนสายบายพาสเลี่ยงตัวเมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดต่างๆ ในภาคอีสานว่า สภาพการจราจรบนถนนบายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมา เริ่มมีปริมาณรถยนต์มาก และหนาแน่นเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะช่วงบริเวณทางที่เป็นทางแยก และบริเวณจุดกลับรถ แต่สภาพรวมยังคงสามารถใช้ความเร็วได้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่แขวนการทางจังหวัดนครราชสีมา เร่งนำกรวยยางวางบนถนนที่เป็นทางแยกเพื่อมุ่งหน้าไปยังจัดหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน เพื่อให้ประชาชนที่ต้องการมุ่งหน้าไปยังจัดหวัดนั้นๆ สามารถเข้าช่องการจราจรที่ถูกต้อง และลดการชะลอตัวจนทำให้เกิดการสะสมของปริมาณ อีกทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ จากที่ผู้ขับขี่เบรกกะทันหันเพื่อต้องการเปลี่ยนช่องทางการจราจร
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 4,000 นาย ตั้งจุดให้บริการประชาชน และจุดอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่ประชาชนตลอดทั้งเส้นทางถนนมิตรภาพ พร้อมทั้งตั้งจุดตรวจจับความเร็ว 4 จุด ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในการเดินทาง