ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ประชาธิปัตย์” โร่ร้อง กกต.เชียงใหม่ตรวจสอบ 3 นายอำเภอเขต 3 เชียงใหม่ หลังพบสั่งผู้นำชุมชนล่ารายชื่อชาวบ้านยื่นขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า พบพิรุธให้เซ็นเอกสารแต่ไม่ได้กรอกสาเหตุ ชี้มีข่มขู่ให้ยื่นเรื่องถือว่าละเมิดสิทธิ์แถมหวั่นใช้รายชื่อไว้ตรวจสอบ-ซื้อเสียง จี้ กกต.เร่งสอบสวนหากพบผิดจริงต้องย้ายนายอำเภอออกนอกพื้นที่
คลิกเพื่อชมคลิป :
วันนี้ (10 เม.ย. 56) นายธนิตพล ไชยนันทน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตาก และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งเขต 3 จ.เชียงใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนางแสงตะวัน ณ เชียงใหม่ คัมภีรญาณนนท์ บุตรสาวของนางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้ทนราษฎร เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และการที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายกระทำการใดๆ เพื่อเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัคร ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พ.ต.ท.ปกรณ์กฤษณ์ ใหญ่โต หัวหน้างานการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้รับเรื่อง
การเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ของผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ ทางพรรคประชาธิปัตย์ระบุเหตุผลว่า ได้รับทราบข้อมูลว่านายอำเภอในเขตเลือกตั้งทั้ง 3 อำเภอ คือ อำเภอสันกำแพง อำเภอแม่ออน และอำเภอดอยสะเก็ด มีพฤติกรรมวางตัวไม่เป็นกลาง โดยสั่งการให้ผู้นำในท้องถิ่นทำการรวบรวมรายชื่อผู้ขอใช้สิทธิลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในแต่ละท้องที่ โดยพบว่ามีการกำหนดเป้าหมายจำนวนรายชื่อ การจัดทำเอกสารยื่นขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่แทนผู้ใช้สิทธิ และการข่มขู่ให้ประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 12 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งในครั้งนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้นำสำเนาเอกสารดังกล่าว จำนวน 114 ชุด มายื่นเป็นหลักฐานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย
โดยนายธนิตพลเปิดเผยว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่า มีผู้นำชุมชนในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้ออกรวบรวมรายชื่อประชาชนในหมู่บ้านของตัวเองเพื่อแจ้งขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 12 เม.ย. โดยบางส่วนมีการบังคับและข่มขู่ให้ลงลายมือชื่อเพื่อแสดงความจำนงขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า หลังจากทราบเรื่องดังกล่าวทางพรรคได้ทำการตรวจสอบในพื้นที่ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่ออน พบว่ากลุ่มผู้นำผู้นำชุมชนทั้งกำนันและผู้ใหญ่บ้านได้รับคำสั่งจากนายอำเภอให้หารายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ประสงค์จะใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าให้ได้หมู่บ้านละ 100 คน
ขณะเดียวกันยังพบว่า เอกสารการยื่นคำขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งที่ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งต้องยื่นเพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 12 เม.ย.นั้น มีการให้ประชาชนลงเพียงลายมือชื่อ แต่ไม่มีการกรอกรายละเอียดอื่นๆ และเหตุผลในการร้องขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแต่อย่างใด โดยเอกสารที่พรรคประชาธิปัตย์ได้นำมาเป็นหลักฐานต่อทางคณะกรรมการการเลือกตั้งนั้นพบว่าในส่วนดังกล่าวถูกกรอกโดยลายมือของคนเดียวกันทั้งหมด
นายธนิตพลกล่าวว่า หากได้รายชื่อตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากทั้งหมด 309 หมู่บ้านที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง จะได้รายชื่อผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าถึง 30,900 คน ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณผู้ยื่นขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในครั้งนี้ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การบังคับรวบรวมรายชื่อเช่นนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และยังทำให้ผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ ไม่มีโอกาสที่จะได้นำเสนอนโยบายหรือหาเสียงกับคนกลุ่มดังกล่าว เนื่องจากระยะเวลาในการแจ้งความจำนงเป็นไปอย่างกระชั้นชิด ทำให้พรรคที่มีความพร้อมมากกว่ามีความได้เปรียบ
นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่า รายชื่อทั้งหมดอาจถูกนำไปใช้ในการตรวจสอบเพื่อเตรียมการซื้อเสียง ทางพรรคประชาธิปัตย์จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบก่อนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากหากปล่อยให้มีการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 12 เม.ย.โดยยังไม่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวจะสร้างความเสียหายต่อการเลือกตั้งและผู้สมัครรายอื่นๆ
ทั้งนี้ นายธนิตพลระบุว่า จากพฤติกรรมดังกล่าว หากการสืบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่พบว่ามีการกระทำผิดจริงจะต้องมีการแจ้งไปยังกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ย้ายนายอำเภอทั้ง 3 อำเภออกจากพื้นที่เป็นการชั่วคราว เนื่องจากถือว่าวางตัวไม่เป็นกลาง และเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ ว่าการการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม พร้อมกันนี้ยังกล่าวด้วยว่าจะรอติดตามผลการสอบสวนเครื่องดังกล่าวของคณะกรรการการเลือกตั้ง โดยหวังว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะเร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุด
ด้าน พ.ต.ท.ปกรณ์กฤษณ์ ใหญ่โต หัวหน้างานการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่จะทำการตรวจสอบคำร้องดังกล่าวว่ามีความถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ หากไม่มีปัญหาใดๆ ก็จะรับเรื่องดังกล่าวไว้และมอบมายให้ฝ่ายสืบสวนสอบาสวนดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป