พะเยา - พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เมืองกว๊านฯ ย้ำ “ค้ามนุษย์พะเยา” น่าห่วง ผวจ.ยกเป็นวาระจังหวัดแล้ว พร้อมเร่งขยายศูนย์เฝ้าระวังฯ กระจายเต็มพื้นที่
น.ส.ราณี วงศ์ประจวบลาภ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) พะเยา กล่าวว่า จังหวัดพะเยาได้ทำงานเรื่องการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 พบว่า กลุ่มเสี่ยงที่ถูกล่อลวงเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์จะเป็นกลุ่มผู้หญิง กลุ่มวัยแรงงาน เมื่อปี 2546-47 คณะทำงานทีมสหวิชาชีพจังหวัดพะเยา ได้ดำเนินการทางคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายค้ามนุษย์รายหนึ่ง มีเด็กผู้หญิงชาวพม่าที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งคณะทำงานฯ ได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาทั้งทางคดี และด้านร่างกาย จิตใจ จนถึงขณะนี้พบว่า คดีที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับค้ามนุษย์โดยตรงยังไม่ปรากฏ แต่มีคดีเกี่ยวกับการค้าประเวณี อยู่ในความดูแลของอัยการจังหวัดมีจำนวน 3-4 คดี
พมจ.พะเยา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่พบลักษณะการกระทำผิดที่เป็นคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ แต่ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นเรื่องสำคัญ และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ ทุกชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เยาวชน และผู้หญิง ซึ่งจังหวัดพะเยา โดย พมจ. ศปคม. และองค์กรภาคประชาสังคม เช่น เครือข่ายแม่ญิงพะเยา มูลนิธิเพื่อความเข้าใจเด็ก ร่วมกันจัดตั้งศูนย์สำรวจและเฝ้าระวังปัญหาการค้ามนุษย์ในระดับตำบลกระจายไปทั่วจังหวัดพะเยา ปัจจุบัน มีอยู่จำนวน 20 ศูนย์ ยังไม่ครอบคลุมทั้ง 68 ตำบล ดังนั้นจังหวัดพะเยา โดยสำนักงาน พมจ.ที่เป็นเลขาฯ ของการทำงานประเด็นการค้ามนุษย์ จึงได้มีแผนที่จะขยายศูนย์สำรวจและเฝ้าระวังฯ ให้กระจายครอบคลุมพื้นที่ต่อไป เพราะชุมชนต้องมีส่วนร่วมสำคัญในการเฝ้าระวังปัญหาดังกล่าวอย่างยิ่งยวด
“ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้เน้นปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์เป็นวาระสำคัญของจังหวัด ที่ต้องเฝ้าระวัง ป้องกันและแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะทำงานทีมสหวิชาชีพระดับตำบลที่จะต้องมีทักษะเรื่องการให้คำปรึกษาแก่ประชาชนในชุมชน ที่จะป้องกันไม่ให้ประชาชนพลัดหลงเข้าไปเป็นผู้เสียหายในกระบวนการค้ามนุษย์ หรือปัญหาสังคมอื่นใด หากประชาชนที่มีเรื่องคับข้องใจได้รับการแบ่งเบาปัญหาทางด้านจิตใจ คาดว่าจะเกิดปัญหาทางสังคมน้อยลงตามไปด้วย” น.ส.ราณี กล่าว
น.ส.ราณี วงศ์ประจวบลาภ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) พะเยา กล่าวว่า จังหวัดพะเยาได้ทำงานเรื่องการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 พบว่า กลุ่มเสี่ยงที่ถูกล่อลวงเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์จะเป็นกลุ่มผู้หญิง กลุ่มวัยแรงงาน เมื่อปี 2546-47 คณะทำงานทีมสหวิชาชีพจังหวัดพะเยา ได้ดำเนินการทางคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายค้ามนุษย์รายหนึ่ง มีเด็กผู้หญิงชาวพม่าที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งคณะทำงานฯ ได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาทั้งทางคดี และด้านร่างกาย จิตใจ จนถึงขณะนี้พบว่า คดีที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับค้ามนุษย์โดยตรงยังไม่ปรากฏ แต่มีคดีเกี่ยวกับการค้าประเวณี อยู่ในความดูแลของอัยการจังหวัดมีจำนวน 3-4 คดี
พมจ.พะเยา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่พบลักษณะการกระทำผิดที่เป็นคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ แต่ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นเรื่องสำคัญ และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ ทุกชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เยาวชน และผู้หญิง ซึ่งจังหวัดพะเยา โดย พมจ. ศปคม. และองค์กรภาคประชาสังคม เช่น เครือข่ายแม่ญิงพะเยา มูลนิธิเพื่อความเข้าใจเด็ก ร่วมกันจัดตั้งศูนย์สำรวจและเฝ้าระวังปัญหาการค้ามนุษย์ในระดับตำบลกระจายไปทั่วจังหวัดพะเยา ปัจจุบัน มีอยู่จำนวน 20 ศูนย์ ยังไม่ครอบคลุมทั้ง 68 ตำบล ดังนั้นจังหวัดพะเยา โดยสำนักงาน พมจ.ที่เป็นเลขาฯ ของการทำงานประเด็นการค้ามนุษย์ จึงได้มีแผนที่จะขยายศูนย์สำรวจและเฝ้าระวังฯ ให้กระจายครอบคลุมพื้นที่ต่อไป เพราะชุมชนต้องมีส่วนร่วมสำคัญในการเฝ้าระวังปัญหาดังกล่าวอย่างยิ่งยวด
“ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้เน้นปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์เป็นวาระสำคัญของจังหวัด ที่ต้องเฝ้าระวัง ป้องกันและแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะทำงานทีมสหวิชาชีพระดับตำบลที่จะต้องมีทักษะเรื่องการให้คำปรึกษาแก่ประชาชนในชุมชน ที่จะป้องกันไม่ให้ประชาชนพลัดหลงเข้าไปเป็นผู้เสียหายในกระบวนการค้ามนุษย์ หรือปัญหาสังคมอื่นใด หากประชาชนที่มีเรื่องคับข้องใจได้รับการแบ่งเบาปัญหาทางด้านจิตใจ คาดว่าจะเกิดปัญหาทางสังคมน้อยลงตามไปด้วย” น.ส.ราณี กล่าว
