อุตรดิตถ์ - สำนักงานกรมทรัพยากรน้ำภาค 9 จังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 3 จังหวัดอุตรดิตถ์เร่งระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบน้ำจากแม่น้ำน่านช่วยเหลือนาข้าวเกษตรกรที่กำลังขาดน้ำแห้งตายกว่า 50,000 ไร่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์
นายธนะเดช แก้วสุวิบูรณ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญงาน สำนักงานกรมทรัพยากรน้ำ ภาค 9 จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดท่อ 30 นิ้วที่สามารถสูบน้ำได้ 5,400 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงจำนวน 3 เครื่องเข้าทำการสูบน้ำร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 3 จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดท่อ 12 นิ้วที่สามารถสูบน้ำได้ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง 6 เครื่อง ซึ่งรวมปริมาณน้ำทั้งหมด 23,400 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงที่บริเวณโรงสูบน้ำด้วยไฟฟ้าตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยได้ทำการสูบน้ำมาไม่มีการหยุดพัก เพื่อนำน้ำเข้าช่วยเหลือเกษตรกรทำนาโดยต้องนำถุงบิ๊กแบ็คขนาดใหญ่ เพื่อสร้างผนังกั้นน้ำขวางทางน้ำที่จะเข้าโรงสูบน้ำชลประทาน ฐานกว้าง 4 เมตร สูง 3 เมตร วางซ้อนกันเป็นชั้น 3 ชั้นที่กั้นระหว่างแม่น้ำน่าน กับทางเข้าโรงสูบน้ำชลประทาน
สาเหตุเพราะปัจจุบันโรงสูบน้ำชลประทานดังกล่าว ไม่สามารถสูบน้ำจากแม่น้ำน่านเพื่อนำไปให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ต.บ้านเกาะ ต.วังกะพี้ อ.เมือง ต.ไผ่ล้อม ต.ทุ่งยั้ง และ ต.บ้านด่าน อ.ลับแล รวมทั้ง ต.ข่อยสูง อ.ตรอน ได้ เนื่องมาจากระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่จะสูบอยู่ต่ำกว่าปกติมากกว่าทุกปี จึงส่งผลต่อการทำเกษตรกรรมในพื้นที่ดังกล่าวทำให้เกษตรกรจำนวนหลายร้อยรายประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อนำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวกว่า 50,000 ไร่ จึงต้องทำการสูบน้ำส่งไปตามคลองลอยของชลประทานก่อนที่นาข้าวของเกษตรกรจะแห้งตายเพราะขาดน้ำ
นายธนะเดช แก้วสุวิบูรณ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญงาน สำนักงานกรมทรัพยากรน้ำ ภาค 9 จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดท่อ 30 นิ้วที่สามารถสูบน้ำได้ 5,400 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงจำนวน 3 เครื่องเข้าทำการสูบน้ำร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 3 จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดท่อ 12 นิ้วที่สามารถสูบน้ำได้ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง 6 เครื่อง ซึ่งรวมปริมาณน้ำทั้งหมด 23,400 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงที่บริเวณโรงสูบน้ำด้วยไฟฟ้าตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยได้ทำการสูบน้ำมาไม่มีการหยุดพัก เพื่อนำน้ำเข้าช่วยเหลือเกษตรกรทำนาโดยต้องนำถุงบิ๊กแบ็คขนาดใหญ่ เพื่อสร้างผนังกั้นน้ำขวางทางน้ำที่จะเข้าโรงสูบน้ำชลประทาน ฐานกว้าง 4 เมตร สูง 3 เมตร วางซ้อนกันเป็นชั้น 3 ชั้นที่กั้นระหว่างแม่น้ำน่าน กับทางเข้าโรงสูบน้ำชลประทาน
สาเหตุเพราะปัจจุบันโรงสูบน้ำชลประทานดังกล่าว ไม่สามารถสูบน้ำจากแม่น้ำน่านเพื่อนำไปให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ต.บ้านเกาะ ต.วังกะพี้ อ.เมือง ต.ไผ่ล้อม ต.ทุ่งยั้ง และ ต.บ้านด่าน อ.ลับแล รวมทั้ง ต.ข่อยสูง อ.ตรอน ได้ เนื่องมาจากระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่จะสูบอยู่ต่ำกว่าปกติมากกว่าทุกปี จึงส่งผลต่อการทำเกษตรกรรมในพื้นที่ดังกล่าวทำให้เกษตรกรจำนวนหลายร้อยรายประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อนำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวกว่า 50,000 ไร่ จึงต้องทำการสูบน้ำส่งไปตามคลองลอยของชลประทานก่อนที่นาข้าวของเกษตรกรจะแห้งตายเพราะขาดน้ำ