อุตรดิตถ์ - ชาวบ้านนาป่าคาย เมืองลับแล รุมต้านกรรมการวัดจ้างผู้รับเหมาขุด-รื้อฐานพระอุโบสถเก่าแก่ ทรงมหาอุตต์ อายุหลายร้อยปี คาดสร้างตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น วิจารณ์ขรมจะบูรณะหรือขุดหาสมบัติกันแน่ ล่าสุด นอภ.สั่งหยุดแล้ว
วันนี้ (28 มี.ค.) ชาวบ้าน ต.นาป่าคาย อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ กว่า 200 คนรวมตัวกันที่วัดนาป่าคาย เพื่อคัดค้านคณะกรรมการวัดที่ทำสัญญากับผู้รับเหมาขุดรื้อฐานพระอุโบสถหลังเก่า อ้างเพื่อทำการบูรณะใหม่ โดยที่ชาวบ้านไม่ทราบเรื่อง
สอบถามชาวบ้านต่างบอกว่า พระอุโบสถหลังนี้สร้างมานานหลายชั่วอายุคน มีอายุหลายร้อยปี จึงอยากให้อนุรักษ์ไว้ หากจะทำการบูรณะก็น่าจะบูรณะตัวพระอุโบสถเท่านั้น ไม่ควรขุดลึกลงไปถึงฐานราก และขณะนี้ก็นำใบเสมาออกไป 2 ใบ จนเห็นลูกนิมิตที่อยู่ด้านล่างแล้ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวชาวบ้านต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่าคณะกรรมการวัดต้องการบูรณะอุโบสถ หรือต้องการขุดหาสมบัติกันแน่
นายชาลี คำด้วง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาป่าคาย กล่าวว่า คาดว่าพระอุโบสถหลังนี้น่าจะสร้างในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เรียกว่าทรงมหาอุตต์ ในอุตรดิตถ์มีพระอุโบสถรูปแบบนี้เพียง 3 แห่ง คือ วัดพระฝางสวางคบุรี วัดช่องลม และวัดนาป่าคาย
“ชาวบ้านไม่เห็นด้วยกับกรรมการวัด จึงได้เชิญสำนักพุทธศาสนาจังหวัด และวัฒนธรรมจังหวัดเข้าร่วมประชุม โดยไม่มีคณะกรรมการวัดและพระสงฆ์เข้าร่วม และล่าสุดนายกวิน ชัยวัณคุปต์ นายอำเภอทองแสนขัน ได้มีคำสั่งให้ทางวัด ยุติการรื้อถอนเพื่อหาข้อสรุปก่อน”
ทั้งนี้ วัดนาป่าคายมี เดิมชื่อวัดโพธิ์บำรุง ได้รับพระบรมราชานุญาตให้สร้างวัดตาม พ.ร.บ.ลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ เมื่อ ร.ศ. 121 หรือปี 2430 และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี 2530
