ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “หลวงพ่อคูณ” ยังนอนซม แพทย์เผยไข้ลดแล้วแต่ยังอ่อนเพลียและซึม ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด ให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำเป็นวันที่ 2 ยอมรับติดเชื้อครั้งนี้ถือว่ารุนแรงอาจส่งผลระบบอื่นแย่ตามไปด้วย ชี้ประสานคณะแพทย์ รพ.ศิริราชตลอดเพื่อประเมินอาการร่วมกัน
วันนี้ (22 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่เข้าพักรักษาอาการอาพาธด้วยภาวะปอดอักเสบ อยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา และ เมื่อคืนวันที่ 20 มีนาคม มีอาการไข้สูงหนาวสั่นเฉียบพลันเพราะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซ้ำอีก นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ แพทย์พยาบาลเวร และลูกศิษย์ได้ทำการพ่นยาขยายหลอดลม ฉันยาละลายเสมหะ และฉันยาลดไข้ เช็ดตัวให้หลวงพ่อคูณ และให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำ
ต่อมา นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ พร้อมด้วยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ประกอบด้วย นพ.ธนากร อนันตเศรษฐกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ, นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด, พญ.วิลาวัลย์ แสงศิรินาคะกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ และ พญ.นิรดา ศิริยากร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เข้าตรวจอาการ
จากนั้น นพ.พินิศจัยเปิดเผยว่า จากการตรวจอาการหลวงพ่อคูณวันนี้ไข้ลดลงจาก 38.4 องศาเซลเซียส เหลือ 36.7-36.8 องศาฯ ไม่มีอาการหนาวสั่นแล้ว คณะแพทย์ได้ให้ยาลดไข้แต่เสลดเสมหะยังมากต้องดูดออกวันละ 2 ครั้ง ยอมรับว่าการติดเชื้อคราวนี้ถือว่ารุนแรงซึ่งเราต้องระวังมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนไปสู่ระบบอื่นๆ แต่โชคที่ที่คณะแพทย์ตรวจพบเร็วก็ให้การรักษาได้เร็วทันท่วงที ซึ่งต้องเรียนว่าเชื้อโรคในโรงพยาบาลเองค่อนข้างรุนแรงและเป็นเชื้อที่ดื้อยามาก ฉะนั้นต้องรักษาแบบประคับประคองตามอาการไป
“ตอนนี้ท่านรู้ตัว รู้เรื่อง พูดคุยได้ แต่มีอาการอ่อนเพลีย ซึมเล็กน้อย ส่วนการตรวจฟังระบบปอด หัวใจและสมองยังไม่มีปัญหา ทั้งนี้คณะแพทย์ต้องระวังมากเพราะอาการอาจจะพาให้พยาธิสภาพในปอดแย่ลงได้ พอปอดติดเชื้อ ถุงลมโป่งพอง ก็จะทำให้การทำงานของหลอดลมหดตัวตามไปด้วย แต่ตอนนี้ปอดยังไม่ถึงกับแย่ลง ไม่มีการติดเชื้อ ซึ่งคณะแพทย์ต้องป้องกันและเฝ้าระวังเต็มที่” นพ.พินิศจัยกล่าว
นพ.พินิศจัยกล่าวอีกว่า การรักษาขณะนี้ได้ให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำเป็นวันที่ 2 ซึ่งอย่างน้อยต้องให้ยาครบ 7 วันจึงจะประเมินอาการอีกครั้งว่าจะหยุดหรือให้ในแบบการฉันต่อไป ส่วนการทำกายภาพยังคงทำอยู่บนเตียงไปก่อน และก่อนหน้านี้คณะแพทย์ได้ให้ออกซิเจน เพื่อให้ท่านหายใจคล่อง แต่ตอนนี้ไม่ได้ให้แล้วและงดออกจากห้องชั่วคราวเพราะต้องให้ท่านได้พักผ่อนมากขึ้น
“ทางทีมแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้ปรึกษากับทางคณะแพทย์โรงพยาบาลศิริราชโดยตลอดเพื่อประเมินอาการหลวงพ่อร่วมกัน และ นพ.สุชาย สุนทราภา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินปัสสาวะ ก็ได้ให้คำแนะนำมาตลอด โดยเฉพาะการล้างกระเพาะปัสสาวะ” นพ.พินิศจัยกล่าว