“พิงคนคร” บริหารเต็มตัว หลังรับมอบศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) รับมอบศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬามากำกับดูแลอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมลุยงานแรกจัดการประชุม “Asia Pacific Water Forum” พ.ค.นี้ รวมทั้งรับหน้าเสื่อจัดงานใหญ่อีกหลายงานในปีนี้ ประกาศชัดรุกทำตลาดต่างประเทศ เดือนหน้าบุกจีน

วันนี้ (20 มี.ค.) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทำพิธีส่งมอบศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ให้แก่ ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เพื่อให้สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) รับศูนย์ประชุมแห่งนี้ไปกำกับดูแล ซึ่งเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานนี้จะควบคุมดูแลการดำเนินงานของเชียงใหม่ ไนท์ซาฟารีด้วย

นายสุวัตรกล่าวว่า การส่งมอบศูนย์ประชุมให้แก่สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เบื้องต้นเป็นการส่งมอบในส่วนของอาคารศูนย์ประชุมและอาคาร SMEs ก่อน ส่วนงานก่อสร้างเพิ่มเติมที่ยังไม่แล้วเสร็จอีก 6 รายการ จะส่งมอบให้หมดภายในเดือนเมษายนนี้ ทั้งนี้การส่งมอบในครั้งนี้ เพื่อให้ทางสำนักงานสามารถเข้าไปบริหารจัดการได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจัดการประชุม Asia Pacific Water Forum หรือการประชุมน้ำโลก ระหว่างวันที่ 14-20 พพฤษภาคม

ขณะที่ ดร.ศราวุฒิกล่าวว่า นอกจากการประชุม Asia Pacific Water Forum แล้วจากนั้นจะจัดการประชุมสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ระหว่าง 26-27 พฤษภาคม จัดประชุมข้าวของกระทรวงพาณิชย์ช่วงเดือนมิถุนายน รวมทั้งการจัดการประชุม World Bank Expo และการจัดเฟอร์นิเจอร์แฟร์ช่วงปลายปี

การจัดงานทั้งหมดเชื่อว่าจะเป็นการแสดงให้เห็นศักยภาพและทำให้ศูนย์ประชุมแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้นทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ที่จะได้มาใช้บริการในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558

ดร.ศราวุฒิกล่าวถึงการทำการตลาดของศูนย์ประชุมว่า ช่วงปีแรกจะเน้นตลาดในประเทศเป็นหลัก ขณะเดียวกันจะประชาสัมพันธ์และทำตลาดต่างประเทศควบคู่กันไปด้วย ซึ่งตามปกติแล้วการทำตลาดต่างประเทศจะต้องทำล่วงหน้า 2-3 ปี โดยเวลานี้ตั้งเป้าที่จะดึงการประชุมอ้อยโลก มาจัดที่ศูนย์ประชุมแห่งนี้

ขณะที่ในเดือนเมษายนนี้จะร่วมคณะกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ไปร่วมงานที่ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อประชาสัมพันธ์และทำการตลาด รวมทั้งจะเข้าร่วมงานในต่างประเทศอีกหลายแห่ง ทั้งเยอรมนี อังกฤษ และตะวันออกกลาง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี