สระแก้ว - ชาวบ้าน ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมือง จ.สระแก้ว รวมตัวกว่า 100 คน ถือป้ายประท้วงไม่เอาฟาร์มหมู่ที่ใกล้หมู่บ้าน หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม แต่นายทุนไม่หยุดหวังเอาเงินอุดเพื่อให้สร้างฟาร์มหมูให้ได้
วันนี้ (17 มี.ค.) ชาวบ้าน เด็ก และคนชรา หมู่ 15 ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมือง จ.สระแก้ว ประมาณ 100 คน เดินทางด้วยรถไถนาปิดถนนบริเวณถนนหน้าสถานที่ก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงหมู พร้อมถือป้ายข้อความเรียกร้องไม่ให้มีการก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงหมูเนื่องจากหวั่นจะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นางสมใจ พิมพ์เขียวงาม ชาวบ้าน ต.โคกปี่ฆ้อง กล่าวว่า ฟาร์มหมูที่จะสร้างมีเนื้อที่ประมาณ 90 ไร่ อยู่ไม่ห่างจากลำคลอง โดยที่ผ่านมา ทางโรงงานได้มีการทำประชาคมหมู่บ้าน ซึ่งประชาคมได้มีมติคัดค้านไม่ให้สร้าง แต่ทางโรงงานยังดื้อดึงเดินหน้าสร้างโรงขุดลอกทางระบายน้ำไปยังที่สาธารณะ โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นพวกเดียวกับโรงงานให้การสนับสนุน
ทางกลุ่มชาวบ้านจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง นายวิฑูรย์ ปิสาวงษ์ นายอำเภอเมืองสระแก้ว โดยทางอำเภอได้มีหนังสือตอบกลับมาเมื่อวันที่ 4 มี.ค.2556 ที่ผ่านมาว่า ได้สอบถามไปยังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วแล้ว พบว่า ยังไม่ได้มีการยื่นขออนุญาตประกอบกิจการแต่อย่างใด การร้องคัดค้านของชาวบ้านจึงไม่สามารถกระทำได้ ส่วนการขุดทางระบายน้ำของโรงงานนั้นเป็นการขุดในที่ดินของตนเอง ไม่มีการรุกล้ำในที่สาธารณะซึ่งถือว่าไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร
รวมทั้งนายก อบต.โคกปี่ฆ้อง ก็ตอบรับเช่นเดียวกันกับอำเภอ พวกเราจึงเชื่อว่าหน่วยงานระดับอำเภอไม่สามรถช่วยชาวบ้านได้ จึงเรียกร้องให้ นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช. อุตสาหกรรม หรือนายเสนาะ เทียนทอง ได้มารับรับฟังชาวบ้าน จึงได้รวมกันปิดถนนเพื่อเรียกร้องเรื่องดังกล่าว
ด้าน นายจันโท เวชการ ตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มบุคคลเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อขอซื้อลายเซ็นชาวบ้านให้เห็นชอบการสร้างโรงงานฟาร์มเลี้ยงหมูหัวละ 1,500 บาท โดยมีผู้นำหมู่บ้านอยู่เบื้องหลัง พวกเราได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้วว่ามีการซื้อลายเซ็น แต่ผู้ใหญ่กลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ
ขณะนี้ ชาวบ้านหมดความอดทน หน่วยราชการต่างๆ ไม่ลงมาดูแล จึงอยากจะวอนสื่อมวลชนช่วยนำเสนอความจริงไปให้หน่วยงานที่รับผิดชอบให้ระงับการต่อสร้างดังกล่าว และพวกเราทุกยืนยันที่จะต่อสู้เพื่อไม่ให้ฟาร์มหฒุเกิดขึ้นในพื้นที่ เนื่องจากจะต้องมีผหลกระทบต่อพวกเราอย่างแน่นอน ทั้งในเรื่องของกลิ่น และน้ำเสีย
ด้าน ร.ต.ท.ประภาส ชาญประเสริฐ รอง สวป.สภ.โคกอีหลง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกอีหลง จำนวน 10 นาย นำกำลังมาดูรักษาความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้านและเจรจาขอเปิดเส้นทางจราจร 1 ช่องทางให้ชาวบ้านได้สัญจรไปมาได้ โดยทางกลุ่มชาวบ้านได้ยินยอม และขอร้องให้ตำรวจรับทราบปัญหาว่าชาวบ้านถูกข่มขู่ด้วยวิธีการปล่อยข่าวจากผู้นำหมู่บ้านพร้อมไปแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
วันนี้ (17 มี.ค.) ชาวบ้าน เด็ก และคนชรา หมู่ 15 ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมือง จ.สระแก้ว ประมาณ 100 คน เดินทางด้วยรถไถนาปิดถนนบริเวณถนนหน้าสถานที่ก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงหมู พร้อมถือป้ายข้อความเรียกร้องไม่ให้มีการก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงหมูเนื่องจากหวั่นจะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นางสมใจ พิมพ์เขียวงาม ชาวบ้าน ต.โคกปี่ฆ้อง กล่าวว่า ฟาร์มหมูที่จะสร้างมีเนื้อที่ประมาณ 90 ไร่ อยู่ไม่ห่างจากลำคลอง โดยที่ผ่านมา ทางโรงงานได้มีการทำประชาคมหมู่บ้าน ซึ่งประชาคมได้มีมติคัดค้านไม่ให้สร้าง แต่ทางโรงงานยังดื้อดึงเดินหน้าสร้างโรงขุดลอกทางระบายน้ำไปยังที่สาธารณะ โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นพวกเดียวกับโรงงานให้การสนับสนุน
ทางกลุ่มชาวบ้านจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง นายวิฑูรย์ ปิสาวงษ์ นายอำเภอเมืองสระแก้ว โดยทางอำเภอได้มีหนังสือตอบกลับมาเมื่อวันที่ 4 มี.ค.2556 ที่ผ่านมาว่า ได้สอบถามไปยังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วแล้ว พบว่า ยังไม่ได้มีการยื่นขออนุญาตประกอบกิจการแต่อย่างใด การร้องคัดค้านของชาวบ้านจึงไม่สามารถกระทำได้ ส่วนการขุดทางระบายน้ำของโรงงานนั้นเป็นการขุดในที่ดินของตนเอง ไม่มีการรุกล้ำในที่สาธารณะซึ่งถือว่าไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร
รวมทั้งนายก อบต.โคกปี่ฆ้อง ก็ตอบรับเช่นเดียวกันกับอำเภอ พวกเราจึงเชื่อว่าหน่วยงานระดับอำเภอไม่สามรถช่วยชาวบ้านได้ จึงเรียกร้องให้ นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช. อุตสาหกรรม หรือนายเสนาะ เทียนทอง ได้มารับรับฟังชาวบ้าน จึงได้รวมกันปิดถนนเพื่อเรียกร้องเรื่องดังกล่าว
ด้าน นายจันโท เวชการ ตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มบุคคลเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อขอซื้อลายเซ็นชาวบ้านให้เห็นชอบการสร้างโรงงานฟาร์มเลี้ยงหมูหัวละ 1,500 บาท โดยมีผู้นำหมู่บ้านอยู่เบื้องหลัง พวกเราได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้วว่ามีการซื้อลายเซ็น แต่ผู้ใหญ่กลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ
ขณะนี้ ชาวบ้านหมดความอดทน หน่วยราชการต่างๆ ไม่ลงมาดูแล จึงอยากจะวอนสื่อมวลชนช่วยนำเสนอความจริงไปให้หน่วยงานที่รับผิดชอบให้ระงับการต่อสร้างดังกล่าว และพวกเราทุกยืนยันที่จะต่อสู้เพื่อไม่ให้ฟาร์มหฒุเกิดขึ้นในพื้นที่ เนื่องจากจะต้องมีผหลกระทบต่อพวกเราอย่างแน่นอน ทั้งในเรื่องของกลิ่น และน้ำเสีย
ด้าน ร.ต.ท.ประภาส ชาญประเสริฐ รอง สวป.สภ.โคกอีหลง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกอีหลง จำนวน 10 นาย นำกำลังมาดูรักษาความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้านและเจรจาขอเปิดเส้นทางจราจร 1 ช่องทางให้ชาวบ้านได้สัญจรไปมาได้ โดยทางกลุ่มชาวบ้านได้ยินยอม และขอร้องให้ตำรวจรับทราบปัญหาว่าชาวบ้านถูกข่มขู่ด้วยวิธีการปล่อยข่าวจากผู้นำหมู่บ้านพร้อมไปแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน