กาฬสินธุ์ชูตำรวจเหยื่อไฟใต้ “วีรบุรุษสละชีวิตเพื่อชาติ”

กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์ เชิดชู “จ.ส.อ.ปิยะ ภูพันเว่อ” ตำรวจชาวกาฬสินธุ์ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดความไม่สงบใน 3 จชต.เป็นวีรบุรุษที่เสียสละชีวิตเพื่อชาติ แม่ระบุลูกชายอยากเป็นตำรวจ และปฏิบัติหน้าที่ในชายแดนใต้มานานกว่า 9 ปี ขณะที่ สตช.ขอพระราชทานเลื่อนชั้นยศ 7 ชั้น จาก “ส.ต.อ.” เป็น “พ.ต.ท.”

จากเหตุคนร้ายวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 นาย คือ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วงศ์พรหมเมศร์ อายุ 49 ปี รอง ผกก.ป.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ส.ต.อ.ปิยะ ภูพันเว่อ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นพลขับ และ ส.ต.ท.สุเวส จันทรังษี อายุ 30 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา

ล่าสุด วันนี้ (17 มี.ค.) ที่ศาลาวัดบ้านหนองกุงเผือก ตำบลหนองกุงศรี อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ ส.ต.อ.ปิยะ ภูพันเว่อ อายุ 30 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ มีนายสวรรค์ และนางทองแดง ภูพันเว่อ บิดาและมารดา พร้อมญาติๆ และเพื่อนข้าราชการตำรวจกำลังจัดเตรียมสถานที่ต้อนรับแขกที่จะมาร่วมงานศพลูกชาย โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้ากับเหตุการณ์ที่ ส.ต.อ.ปิยะ จากไปอย่างกะทันหัน ทั้งนี้ ภายหลังจาก พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และกองเกียรติยศได้รับ และนำศพส่งให้แก่ญาติอย่างสมเกียรติ เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา

นางทองแดง ภูพันเว่อ อายุ 59 ปี มารดาของ ส.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า ครอบครัวมีลูก 2 คน โดย ส.ต.อ.ปิยะ เป็นลูกชายคนเล็ก ซึ่งตั้งแต่เด็ก ส.ต.อ.ปิยะ อยากเป็นตำรวจ กระทั่งสามารถสอบตำรวจได้ และเรียนจบตั้งแต่ปี 2547 และได้ปฏิบัติหน้าที่ใน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มานานกว่า 9 ปีแล้ว จนปัจจุบัน เตรียมที่จะสอบเป็นนายร้อย และขอย้ายเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในกรุงเทพฯ แต่ก็มาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเสียก่อน ตนยังทำใจกับการสูญเสียลูกชายไม่ได้ เพราะ ส.ต.อ.ปิยะ ถือเป็นเสาหลักของครอบครัว มีความกตัญญู แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองจนถึงวินาทีสุดท้าย

ด้าน พล.ต.ท.กวี สุภานัน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ได้รับคำสั่งการ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้จัดงานให้แก่ ส.ต.อ.ปิยะ อย่างสมเกียรติ โดยตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือทุกอย่าง ทั้งการจัดสถานที่ เครื่องดื่ม อาหาร และค่าใช้จ่าย เพราะถือว่า ส.ต.อ.ปิยะ เป็นชาวกาฬสินธุ์ เป็นข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เสียสละชีวิตเพื่อชาติบ้านเมือง จึงสมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นวีรบุรุษ และเป็นแบบอย่างที่ดีของข้าราชการตำรวจอีกด้วย

ส่วนการช่วยเหลือนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมอบเงินช่วยเหลือ 800,000 บาท และจะขอพระราชทานเลื่อนชั้นยศ 7 ชั้นยศจาก ส.ต.อ.เป็น พ.ต.ท. โดยจะมีพิธีสวดอภิธรรมไปจนถึงวันที่ 20 มีนาคม 2556 และในวันที่ 21 มีนาคม 2556 จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และทางตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นเจ้าภาพจัดงาน และไม่ให้ญาติเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

ด้านนายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การเสียชีวิตของ ส.ต.อ.ปิยะ สมควรได้รับการยกย่อง และเชิดชูเกียรติ เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่จนเสียชีวิต ซึ่งจังหวัดกาฬสินธุ์จะเข้าไปช่วยเหลืองานศพ และครอบครัวอย่างเต็มที่ เบื้องต้น ได้มอบเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวไปแล้วจำนวนหนึ่ง