กาญจนบุรี - หนุ่มวัย 32 ชาวบ้านบ้องตี้ อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี ที่ถูกต้นไม้ล้มทับจากพายุถล่ม เผยนาทีระทึกรอดตายได้ทั้งครอบครัว เพราะบารมี “หลวงปู่ทวด-หลวงตามหาบัว” ที่แขวนคอไว้ ด้านนายอำเภอไทยโยคเตรียมแปรรูปไม้ที่ล้มทับปลูกบ้านหลังใหม่ให้
จากกรณีเกิดเหตุพายุพัดถล่มพื้นที่หมู่ 4 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มทับบ้านของประชาชนเสียหายทั้งหลังและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 รายโดยถูกนำไปรักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เหตุเกิดเวลาประมาณ 19.30 น.ของวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 10.00 น.วันนี้ (17 มี.ค.) นายสุมิตร สุขเกษม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 4 เจ้าของบ้านหลังที่เกิดเหตุต้นไม้ล้มทับและเป็นผู้ที่ถูกต้นไม้ทั้งต้นทับเข้าที่ลำตัวและหน้าอก เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.ถึงเวลาประมาณ 19.00 น.ของวานนี้ ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกลงมาอย่างหนัก อีกทั้งไฟฟ้าก็ดับมืดสนิททั้งหมู่บ้าน ขณะนั้นตนกับแม่และหลานชาย รวมทั้งเด็กชายชาวพม่าอีก 1 คน รวม 4 คน กำลังนั่งหลบฝนอยู่บริเวณชานบ้าน
จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.30 น. จู่ๆ ต้นหว้าใหญ่ขนาด 2 คนโอบอายุหลายร้อยปีที่ขึ้นอยู่บริเวณของบ้านได้โค่นล้มลงมาทับหลังคาบ้านจนพังเสียหายทั้งหลัง ขณะนั้นทุกคนมองไม่เห็นเนื่องจากมืดมาก ส่วนแม่และเด็กๆ อยู่คนละจุดของบ้าน ทุกคนได้ยินแต่เสียงดังโครม จากนั้นตนก็ไม่ทราบอะไรอีกเลยเนื่องจากตนนอนสลบอยู่ ไม่นานนักตนก็ฟื้นและลืมตาขึ้นมา เห็นแม่กำลังเรียก และพบว่าต้นหว้าขนาดใหญ่ได้ล้มมาทับที่ลำตัวจนถึงหน้าอกของตน หลังจากตั้งสติได้ก็พยายามขยับตัวเพื่อให้หลุดจากการที่ถูกต้นไม้ทับ
จากนั้นตนจึงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านเพื่อประสานให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมืดประกอบกับซากของบ้านได้พังลงมากองอยู่กับพื้นทั้งหมด เหลือแต่โคนเสา อีกทั้งฝนได้ตกหนักอยู่ตลอดเวลา ต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยก็มาถึงและนำตนและครอบครัวไปส่งโรงพยาบาลได้ในที่สุด ทั้งนี้ หลังจากบ้านของตนถูกต้นไม้ล้มทับจนเสียหายทั้งหลัง อีกทั้งทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ต่างๆ ในครัวเรือน รวมทั้งจักรยานยนต์เสียหายทั้งหมด หลังจากหมออนุญาตให้กลับบ้านก็คงต้องไปอาศัยเพื่อนบ้านอยู่ชั่วคราวก่อน
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสาเหตุที่ตนไม่เสียชีวิตเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของพระหลวงปู่ทวด ที่สร้างโดยหลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รวมทั้งพระของหลวงตามหาบัว ที่ตนแขนคอเอาไว้ตลอดเวลา
ด้านนายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นายอำเภอไทรโยค กล่าวว่า เบื้องต้นทางอำเภอไทรโยค และ อบต.บ้องตี้ ได้ร่วมกันออกสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายเพียงหลังเดียวคือบ้านของนางสงวน สุขเกษม อายุ 60 ปี ได้รับความเสียหายทั้งหลัง เนื่องจากถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับ
นอกจากนั้น พบเพียงต้นไม้หักโค่นขวางถนน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เคลียพื้นที่หมดแล้ว สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังระดมกำลังตัดต้นไม้ที่ล้มทับบ้านออกให้ได้เสียก่อน ซึ่งต้องใช้เวลานานพอสมควรเพราะต้นไม้มีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งยังมีต้นประดู่ใหญ่ขนาด 2 คนคนโอบขึ้นอยู่ใกล้กัน โดยเราจะขออนุญาตไปทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อขอตัด แล้วนำมาสร้างบ้านหลังใหม่ให้ ซึ่งคาดว่าทั้งต้นประดู่และต้นหว้าที่หักโค่น คงจะนำมาแปรรูปเพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันได้เตรียมที่จะมอบถุงยังชีพกับเจ้าของบ้านที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจะต้องรอให้ออกจากโรงพยาบาลก่อน
รายงานข่าวว่า สำหรับรายชื่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย นางสงวน สุขเกษม อายุ 60 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย, นายสุมิตร สุขเกษม อายุ 32 ปี ลูกชาย มีแผลที่บริเวณหน้าผาก แขนขา และบริเวณลำตัวฟกช้ำเนื่องจากถูกต้นไม้ล้มทับอย่างจัง และยังมีเด็กชายอีก 2 คน คือ ด.ช.ณัฐพงศ์ วิหกโต อายุ 11 ปี แผลฉีกขาดที่บริเวณขาขวา แพทย์ต้องเย็บ 8 เข็ม รวมทั้งศีรษะเหนือหูขวาบวม และ ด.ช.สรพงษ์ ไม่มีนามสกุล ชาวพม่า อายุ 12 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งคณะแพทย์ที่ทำการรักษาได้อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว